2733 จำนวนผู้เข้าชม |
นายธีรฉัตร ศิลปสนธยานนท์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า (FNS) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น บมจ. พรีเมียร์ ควอลิตี้ สตาร์ช (PQS) เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 170 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25.37% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นละ 6 บาท ระหว่างวันที่ 7 - 9 กุมภาพันธ์ศกนี้ ผ่านบริษัทฯ และผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 5 ราย คือ บมจ. หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) บมจ. หลักทรัพย์ฟิลลิป ประเทศไทย (PLS) บมจ. หลักทรัพย์ เคจีไอ ประเทศไทย (KGI) บมจ. หลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน ประเทศไทย (KGI) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า ประเทศไทย (YUANTA) คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้
ทั้งนี้ การกำหนดราคา IPO ที่ 6 บาท ใช้วิธีประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ด้วยวิธีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (Price to Earnings Ratio หรือ P/E) คำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลดำเนินงานช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายนปีที่ผ่านมา คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิเท่ากับ 11.85 เท่า ถือเป็นราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการผลิตแป้งมันสำปะหลังรายหนึ่งของประเทศ
ขณะที่นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิน พลัส แอดไวเซอรี่ (FINPlus) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า PQS มีจุดเด่นหลายประการ ทั้งความเชี่ยวชาญในธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหัวมันสำปะหลัง หรือผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง โดยเฉพาะแป้งมันสำปะหลังเกรดพรีเมี่ยม ที่เป็นจุดแตกต่างจากคู่แข่ง รวมถึงความสามารถในการให้บริการที่รวดเร็ว ตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ช่วยขยายฐานลูกค้ารายใหม่และเพิ่มยอดขายสำหรับลูกค้าเดิม จนสร้างคู่ค้าทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ต่อยอดการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน ดูได้จากผลดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา มีการเติบโตของรายได้และกำไรต่อเนื่อง
โดยรายได้รวมเพิ่มจาก 1.255.70 ล้านบาท ในปี 2562 เป็น 1,282.05 ล้านบาท และ 2,254.03 ล้านบาท ในปี 2563 และปี 2564 ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิเร่งตัวจาก 65.75 ล้านบาท ในปี 2562 เป็น 82.09 ล้านบาท และ 313.82 ล้านบาท ในปี 2563 และปี 2564 ตามลำดับ
ส่วนรายได้รวมช่วง 9 เดือนแรกปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 1,757.57 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 13.72% เช่นเดียวกับกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 13.67% เป็น 211.36 ล้านบาท
โอกาสนี้ นายรัฐวิรุฬห์ ชาญจึงถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PQS ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ กว่า 98% มาจากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง แบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศ และส่งออก ในสัดส่วน 23% และ 74% โดยเฉพาะตลาดจีนมีน้ำหนักสูงกว่า 95% ตามลำดับ ที่เหลือมาจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ
ซึ่งความสำเร็จของบริษัทฯ เกิดจากการที่โรงงานตั้งอยู่ในทำเลที่อุดมไปด้วยวัตถุดิบมันสำปะหลังคุณภาพ ส่งผลให้วัตถุดิบมีความสดใหม่อยู่เสมอ ช่วยให้สามารถผลิตสินค้าแป้งมันสำปะหลังที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานระดับสากล รวมถึงมีระบบบริหารจัดการที่มุ่งดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า จนทำให้มีศักยภาพในการแข่งขันสูง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งบริษัทฯ มีการขยายกำลังการผลิต และใช้กำลังการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงขึ้นเป็นลำดับ จนทุกวันนี้อยู่สูงกว่า 22%
สำหรับรายได้จากการขายไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ จนสูงถึง 49% ทำให้รายได้ประจำมีการเติบโตสม่ำเสมอ
ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลังแห่งใหม่ และขยายโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเพิ่มเติม เป็นหลัก คิดเป็นวงเงินรวม 721 ล้านบาท จะช่วยส่งเสริมศักยภาพการขยายธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพที่มีแนวโน้มเติบโตสูงให้แข็งแกร่งมากขึ้น ขณะที่เงินส่วนที่เหลือ 266 ล้านบาท จะแบ่งไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนเติบโตของบริษัทฯ จะช่วยให้ฐานะทางการเงินมีความเข้มแข็งมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น และขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในที่สุด