TIDLOR เข้าลงทุน 10% ใน สมใจ ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เพิ่มมูลค่าธุรกิจ

2369 จำนวนผู้เข้าชม  | 

TIDLOR เข้าลงทุน 10% ใน สมใจ ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เพิ่มมูลค่าธุรกิจ


นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เงินติดล้อ (TIDLOR) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท สมใจ 2559 โดยเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 10% เพราะเล็งเห็นศักยภาพในการเป็นผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ที่ดำเนินงานโดยผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์และความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจที่แตกต่างและสร้างสรรค์ จากความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนให้กับบริษัทฯ และพันธมิตรที่เป็นผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ช่องทางการขายร่วมกัน เพื่อเพิ่มยอดขายรถจักรยานยนต์ให้กับพันธมิตร การทำการตลาดร่วมกัน ช่วยเพิ่มการรับรู้และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้กับพันธมิตรในแต่ละพื้นที่ หรือการให้คำแนะนำและความช่วยเหลือในการขยายเครือข่ายสาขาของพันธมิตร โดยมีการบริหารและการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน รวมถึงการพัฒนาบุคลากรร่วมกัน 

เงินติดล้อยังร่วมให้บริการแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Platform) แก่สมใจ เพื่อยกระดับมาตรฐานและความสามารถในการดำเนินธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ท่ามกลางการแข่งขันและการกำกับดูแลธุรกิจที่มีความเข้มข้นมากขึ้นในปัจจุบัน ถือเป็นการต่อยอดสร้างความแข็งแกร่งทั้งธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ และธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้เงินติดล้อได้ขยับเข้าใกล้กับธุรกิจต้นน้ำ เพื่อประโยชน์ในการยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายให้กับลูกค้าเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่องและทันที และยังเป็นการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปสงค์และอุปทานให้กับวงจรการใช้รถจักรยานยนต์

นอกจากนี้ ยังถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับเงินติดล้อ จากการนำแพลตฟอร์มด้านไอทีที่พัฒนาขึ้นมาใช้ต่อยอดการทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้ในระยะยาว พร้อมกับยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจการเงินและนายหน้าประกันภัยให้กับกลุ่มลูกค้ารายย่อยได้เป็นอย่างดี


 


ผู้บริหาร TIDLOR ยังบอกด้วยว่า พร้อมหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับมือเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีในรูปแบบอื่นๆ และในธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกันภัย

อย่างไรก็ตาม กับภาพระยะสั้น ฝ่ายวิจัย เอเซีย พลัส (ASPS) และดาโอ (DAOL) คาดกำไรสุทธิไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 835-840 ล้านบาท ลดลง 7% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่เพิ่มขึ้น 5-6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) เพราะมีปัจจัยกดดันจากแนวโน้ม Cost to income ratio ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และแนวโน้ม Credit cost ที่ปรับสูงขึ้นจากผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งหักล้างการเติบโตของรายได้ทั้งจากการปล่อยสินเชื่อ และจากค่านายหน้าในการขายประกัน ไปได้ทั้งหมด ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี ASPS คาดทำได้ 3.7 พันล้านบาท เติบโต 16.9% YoY ขณะที่ DAOL คาดทำได้ 3.8 พันล้านบาท เติบโต 20.4% YoY

สำหรับปีนี้ ASPS คงประมาณการกำไรสุทธิที่ 4.3 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 19.8% ส่วน DAOL ประเมินกำไรสุทธิที่ 4.7 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 25.0% ด้วยเหตุผลเดียวกัน คือ การได้ประโยชน์จากสินเชื่อเติบโต และแนวโน้ม Cost to income ลดลง เพราะมีการประหยัดจากขนาด เห็นผลตั้งแต่งบการเงินไตรมาสแรกปีนี้ โดยคาดกำไรสุทธิจะปรับเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY 

ทั้งนี้ ASPS ให้ราคาเป้าหมาย TIDLOR ที่ 34 บาท ขณะที่ DAOL ให้ราคาเป้าหมาย 38 บาท อิง P/BV ที่ 3.1 เท่า (เทียบเท่า -0.5SD below average P/BV) และแนะนำ “ซื้อ” เพราะราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคาจอง

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้