KTAM เปิดขาย IPO กองทุน KT-GREEN หาผลตอบแทนจากกระแสพลังงานสะอาดที่เบ่งบาน 10-20 ม.ค.นี้

ภาวะโลกร้อน ที่เป็นต้นเหตุให้สภาวะภูมิอากาศแปรปรวนมากขึ้น จนส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ทำให้นานาประเทศทั่วโลกพร้อมใจกันลงนามในข้อตกลงปารีส (Paris Agreement 2015) เพื่อช่วยกันรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงเกิน 2 องศาเซลเซียส ทำให้อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกจำเป็นต้องเร่งปฎิวัติเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญ เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานคาร์บอนตํ่าอย่างมีนัยสำคัญ เปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมพลังงานสะอาดกลายเป็นทางเลือกในการหาผลตอบแทนเพราะธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน จึงทำให้ บลจ. กรุงไทย (KTAM) เตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดเคแทม Green Energy Fund (KT-GREEN) ใน 2 ลักษณะ คือ แบบสะสมมูลค่า (KT-GREEN-A) และแบบเพื่อการออม (KT-GREEN- SSF) ระหว่างวันที่ 10 - 20 มกราคมนี้  โดยไม่มีเงื่อนไขการลงทุนขั้นต่ำแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กองทุน KT-GREEN ทั้ง 2 รูปแบบ จะลงทุนผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) คือ กองทุน Schroder International Selection Fund Global Energy Transition ชนิดหน่วยลงทุน (share class) C USD Acc สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAVs) ของกองทุนรวม ภายใต้การบริหารและจัดการโดยกองทุน Schroder Investment Management (Europe) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว จากการลงทุนในตราสารทุน หรือหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่ผู้จัดการกองทุนหลักเชื่อว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานคาร์บอนตํ่า ซึ่งผู้จัดการกองทุนเล็งเห็นว่า เป็นการลงทุนอย่างยั่งยืน

สำหรับจุดเด่นของกองทุน อยู่ที่เกณฑ์การคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุนน้อยกว่า 60 บริษัท และลงทุนแบบเชิงรุก โดยจะลงทุนเฉพาะในบริษัทที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 50% จากการทําธุรกิจที่นําไปสู่การเปลี่ยนแปลงของโลกสู่การใช้พลังงานที่มีคาร์บอนตํ่า เช่น การผลิตพลังงานที่มีคาร์บอนตํ่า การจัดจําหน่าย การเก็บรักษา การขนส่ง และที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทาน ผู้จัดหาวัตถุดิบ และบริษัทเทคโนโลยี

ส่วนเงินลงทุนส่วนที่เหลืออีก 20% ของ NAVs กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กําหนดไว้

ขณะเดียวกัน กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ทั้งเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) และเพื่อการลงทุนด้วย 

สำหรับวัตถุประสงค์ในการลงทุน KTAM มุ่งหวังให้ผลดำเนินงานเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน แต่กับภาวะตลาดทุนที่ไม่สดใสในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กองทุนหลักมีผลขาดทุนจากการลงทุนในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา 19.27% แต่หากย้อนหลังกลับไป 3 ปี กองทุนหลักจะมีกำไรจากการดำเนินงานถึง 21.97%