2193 จำนวนผู้เข้าชม |
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (บีคอน วีซี) ในเครือ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า เพื่อพัฒนาสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง บริษัทฯ ร่วมกับบริษัทแม่ ได้จัดโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2022 ที่มุ่งเน้นให้ความรู้ความเข้าใจ และลงมือปฏิบัติจริงทุกขั้นตอน โดยมีผู้เชี่ยวชาญถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมถึงเทคนิคต่างๆ ให้สามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจของตนเอง และนำความรู้ดังกล่าวไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 โดยปีนี้ มีสตาร์ทอัพให้ความสนใจสมัครร่วมโครงการกว่า 250 ทีม และผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเข้ารับการอบรมจำนวน 65 ทีม เป็นสตาร์ทอัพที่มาจากหลากหลายประเภทธุรกิจ ครอบคลุมความต้องการของตลาด และมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถแข่งขันได้จริง
โดยตลอดระยะเวลาการเรียนรู้อย่างเข้มข้น 8 สัปดาห์ สตาร์ทอัพได้รับการอบรมหลักสูตร จาก Stanford Thailand Research Consortium นำโดย รองศาสตราจารย์ Charles (Chuck) Eesley ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ด้วยองค์ความรู้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของการดำเนินธุรกิจแบบสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ก่อนจะคัดเลือกทีมสตาร์ทอัพที่มีผลงานโดดเด่น 8 ทีมสุดท้าย มานำเสนอแผนธุรกิจต่อคณะกรรมการ
สำหรับผลงานที่ 8 ทีมสุดท้ายได้นำเสนอ กระจายไปในหลายอุตสาหกรรม ทั้งเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (Educational Technology) เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (Health Technology) เทคโนโลยีเพื่อการเกษตร (Agricultural Technology ) วิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV Engineering) เทคโนโลยีขั้นสูงเรื่องน้ำ (Water Technology) โซลูชันด้านคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Solution)
ผลการแข่งขัน ทีมชนะเลิศได้แก่ ทีมโปรเจค อีวี (Project EV) โซลูชั่นแบบครบวงจรเพื่อดัดแปลงรถยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) สำหรับธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ อันดับที่ 2 ทีม HealthTAG ผู้ให้บริการทางด้านการจัดการข้อมูลทางการแพทย์ด้วยเทคโนโลยี Blockchain เพื่อให้เกิดการเเลกเปลี่ยน เชื่อมโยง และบูรณาการข้อมูลสุขภาพแบบไร้รอยต่อโดยผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง อันดับที่ 3 ทีม LEET CARBON ที่นำเสนอโซลูชั่นในการจัดการ ติดตาม และตรวจสอบโครงการคาร์บอนเครดิตด้วยข้อมูลเชิงพื้นที่ และข้อมูลพื้นฐานธรรมชาติ เพื่อการแก้ปัญหา (Nature Based Solution) อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส
ทั้งนี้ สตาร์ทอัพที่ชนะเลิศทั้ง 3 ทีม จะได้รับรางวัลจากโครงการทั้งเงินรางวัล และผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดธุรกิจ มูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท ขณะที่ผู้เข้าร่วมโครงการ และผ่านเกณฑ์ของหลักสูตรนี้ทุกทีม จะได้รับประกาศนียบัตรจากโครงการ KATALYST by KBank และเอกสารยืนยันการเข้าร่วมและสำเร็จหลักสูตรการเรียนรู้ แบบออนไลน์ จาก Stanford Online ซึ่งเป็นใบเบิกทางและโอกาสสำคัญในการขยายเครือข่ายทางธุรกิจกับบริษัทชั้นนำมากมายทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย
นายธนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ และ KBANK พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริม Startup Community อย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดเสวนาแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ การนำสตาร์ทอัพมาร่วมโครงการต่อยอดทางธุรกิจกับธนาคาร รวมทั้งการให้คำปรึกษา และแนะนำโซลูชันของทางธนาคารให้แก่สตาร์ทอัพ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการและดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเติบโตในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน