AMARC เคาะราคาขาย IPO ที่ 2.90 บาท เปิดจองซื้อ 5-7 ต.ค.นี้ ก่อนเข้าซื้อขายในตลาด mai 19 ต.ค.

2126 จำนวนผู้เข้าชม  | 

AMARC เคาะราคาขาย IPO ที่ 2.90 บาท เปิดจองซื้อ 5-7 ต.ค.นี้ ก่อนเข้าซื้อขายในตลาด mai 19 ต.ค.

นายวิศรุต อังศุภากร ผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บมจ. หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน (CNS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ. ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย (AMARC) เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.90 บาท จากราคาพาร์ที่ 50 สตางค์ ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ ผ่านบริษัทฯ และ บมจ. หลักทรัพย์เคจีไอ ประเทศไทย (KGI) ร่วมด้วยผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 3 ราย ประกอบด้วย บมจ. หลักทรัพย์ฟิลลิป ประเทศไทย (PLS), บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ประเทศไทย (CGS-CIMBS) และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก (GBX) ก่อนเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) หมวดธุรกิจบริการ วันที่ 19 ตุลาคมนี้

สำหรับเหตุผลที่ตั้งราคาขาย IPO ที่ 2.90 บาท ใช้วิธีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio หรือ P/E) ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิย้อนหลังของบริษัทฯ ช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมปีที่แล้ว ถึงวันที่ 30 มิถุนายนปีนี้) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด ได้ P/E ที่ระดับ 45.72 เท่า ถือได้ว่าสอดรับกับปัจจัยพื้นฐาน ที่เป็นศูนย์แล็ปที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีฐานลูกค้าหลากหลาย ทั้งภาคเกษตรกรรม ประมง ปศุสัตว์ โรงงานแปรรูป โรงงานอุตสาหกรรม ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร อาหาร และยา ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการรายย่อย จนถึงบริษัทชั้นนำของประเทศ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานภาครัฐ  

ที่สำคัญ AMARC มีจุดแข็งในการเป็นผู้ให้บริการทดสอบ ตรวจสอบ และรับรองแบบ Comprehensive Supply Chain Service สำหรับอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร มาอย่างยาวนานกว่า 18 ปี ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าสูง จนสามารถรักษาฐานลูกค้ารายเดิมในอัตราที่สูง ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง มีศักยภาพการเติบโตค่อนข้างสูง จึงเป็นโอกาสให้ AMARC สามารถขยายขอบเขตการให้บริการ และขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในระดับภูมิภาค ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น เข้าข่ายการเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตแบบ Growth Stock

ส่วน ดร.ชินดนัย ไชยยอง กรรมการผู้จัดการ AMARC ชี้แจงว่า ปัจจุบันธุรกิจให้บริการทางวิทยาศาสตร์ในประเทศไทยมีผู้ให้บริการน้อยราย แต่กลับมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งด้านราคาและคุณภาพการให้บริการ อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการแต่ละรายต่างมีขอบเขตธุรกิจและการให้บริการแตกต่างกัน แต่อาจมีความทับซ้อนกับบริษัทฯ ที่เน้นให้บริการกับธุรกิจเกษตรแปรรูป และธุรกิจอาหารเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ นอกจากจะเพิ่มความน่าเชื่อถือในระดับสากลให้เป็นที่รู้จักของผู้ใช้บริการทั้งในและต่างประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 322 ล้านบาท ไปใช้สำหรับจัดซื้อเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนเวียนในการประกอบธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสเติบโตในอนาคตได้ด้วย

สำหรับผลดำเนินงานย้อนหลัง ช่วงปี 2562-64 ที่ผ่านมา AMARC มีรายได้รวม 198.04 ล้านบาท 220.19 ล้านบาท และ 248.55 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 18.19 ล้านบาท 28.43 ล้านบาท และ 24.86 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ผลดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 131.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 8.32% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 12.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 16.19% ส่วนหนึ่งเกิดจากบริษัทฯ สามารถควบคุมอัตรากำไรขั้นต้นได้สูงเกิน 40% อย่างต่อเนื่อง 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้