1799 จำนวนผู้เข้าชม |
การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ของ บมจ. เจริญอุตสาหกรรม (CH) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ โดยมีผลิตภัณฑ์สินค้าหลัก คือ ผลไม้อบแห้ง นำโดยการส่งออกมะม่วงและปลากระป๋อง ที่เน้นส่งออกไปทั่วโลก กว่า 50 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น อินเดีย หรือจีน ในวันจันทร์ที่ 12 กันยายนนี้ ได้รับการคาดหมายจากนักวิเคราะห์หลายสำนักว่า ราคาน่าจะยืนเหนือจองสำเร็จ จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ด้วยฐานรายได้หลักกว่า 70% จากการส่งออก ส่วนใหญ่เป็นการรับจ้างผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ที่ได้รับการยอมรับเรื่องมาตรฐานสินค้า และความเป็นผู้นำในตลาดอาหารแปรรูป รวมถึงความเป็นผู้นำในการส่งออกมะม่วงเป็นลำดับต้นๆ ของไทย ผลไม้อบแห้งชนิดอื่นของบริษัทฯ ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน ด้ วยประสบการณ์กว่า 97 ปี ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนได้รับการยอมรั บในตลาดโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้ าและร้านค้าปลีกระดับโลก อย่างวอลล์มาร์ท
ในเบื้องต้น ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ชี้ว่า การที่ผลดำเนินงานช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถูกกระทบจากไวรัสโควิด และการขาดแคลนสายการเดินเรือ แต่ปัจจุบันสถานการณ์เหล่านี้คลี่คลาย ประกอบกับการขยายฐานลูกค้าไปยุโรป บวกกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มขนมเพื่อสุขภาพ คาดกำไร 3 ปีนี้ (2022-2024) เติบโตเฉลี่ย 26% แนะนำ "ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมาย ที่ 3.35 บาท
ขณะที่ฟิลลิป (PLS) บอกว่า เชื่อมั่นว่าผลดำเนินงานของบริษัทฯ จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ส่งผลให้กำลังซื้อกลับมาเพิ่มขึ้น ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนตู้และเรือขนส่งเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลบวกต่อรายได้ของบริษัทฯ ที่มาจากการส่งออกสูงกว่า 70% ของยอดขายรวม อีกทั้งยังจะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนอีกทาง ทำให้คาดกำไรปีนี้และปีหน้าเติบโต 16% YoY และ 25% YoY มาอยู่ที่ 78 ล้านบาท และ 98 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 3.05 บาท อิง P/E 25 เท่า
ส่วนโกลเบล็ก (GBX) ประเมินรายได้ปีนี้ที่ 1,630 ล้านบาท และปีหน้าที่ 1,842 ล้านบาท ขยายตัวระดับ 13% เท่ากัน โดยมีกำไรปีนี้ที่ 82 ล้านบาท ก่อนเติบโตเป็น 96.6 ล้านบาท ในปีหน้า คิดเป็นอัตราขยายตัว 22.3% และ 17.9% ตามลำดับ หรือมีมูลค่าพื้นฐานปีนี้ ที่ 3 บาท
เช่นเดียวกับยูโอบี เคย์เฮียน (UOBKH) ที่ให้ราคาเป้าหมาย 3 บาท จากการที่ CH เป็นผู้เล่นอันดับต้นๆ ในกลุ่มผลไม้อบแห้ง และมีจุดแข็งเรื่องฐานกำไรที่ยังเล็กกว่ากลุ่ม ทำให้บริษัทฯ ยังมีโอกาสเติบโตสูงกว่ากลุ่มอยู่มาก สะท้อนจาก Core EPS growth ที่เติบโตสูงสุด ด้วยอัตราการเติบโตของกำไรปกติเฉลี่ยระดับ 28.2%