NITMX ก้าวสู่ปีที่ 18 มุ่งมั่นพันธกิจพัฒนาระบบชำระเงินไทยเชื่อมโลก เพิ่มศักยภาพภาคธุรกิจไทย สู่เศรษฐกิจดิจิทัล
1308 จำนวนผู้เข้าชม |
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย และประธานกรรมการ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ (NITMX) ผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและมาตรฐานระบบการชำระเงินที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะ ระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) ที่ช่วยให้การชำระเงินและโอนเงินสะดวกรวดเร็วขึ้น ถึงมือผู้รับโดยตรง โปร่งใส และไม่มีค่าธรรมเนียม
ล่าสุด จำนวนผู้ลงทะเบียนใช้ PromptPay สิ้นไตรมาส 2 อยู่ที่ 70 ล้านหมายเลข เพิ่มขึ้น 22.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) โดยมียอดการโอนเงินเฉลี่ยวันละ 38.7 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 59.3% คิดเป็นมูลค่ารวม 1.21 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.6% YoY ช่วยผลักดัน Digital Payment ของประเทศให้เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ประชาชนหันมาใช้จ่ายผ่านดิจิทัลแทนเงินสดมากขึ้น
โดยปี 2564 มีธุรกรรมชำระเงินระหว่างธนาคารกว่า 10,000 ล้านรายการ มีเงินหมุนเวียนผ่านระบบ ITMX มูลค่ารวม 39 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.4 เท่าของ GDP ประเทศ ขณะที่ช่วงครึ่งแรกปีนี้ มีธุรกรรมชำระเงินระหว่างธนาคารกว่า 6,000 ล้านรายการ มูลค่ารวมกว่า 23 ล้านล้านบาท
ดังนั้น เพื่อขยายขีดความสามารถของระบบให้สามารถให้บริการรองรับปริมาณธุรกรรมที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ก้าวย่างในปีที่ 18 ของ NITMX เตรียมเพิ่มศักยภาพระบบให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตั้งเป้าสิ้นปีนี้ จะสามารถให้บริการรองรับธุรกรรมสูงสุดเพิ่มเป็น 10,000 รายการต่อวินาที (เพราะตัวเลขสูงสุดในครึ่งแรกปีนี้ จำนวนธุรกรรมสูงสุดอยู่ที่ 6,000 รายการต่อวินาที ขณะที่จำนวนธุรกรรมสูงสุด อยู่ที่ 2,900 รายการต่อวินาที
ทั้งนี้ NITMX มุ่งมั่นพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ภายใต้ทิศทางการพัฒนาระบบการชำระเงินตามแนวนโยบายภูมิทัศน์ใหม่ ภาคการเงินไทย ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่สนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขัน และพัฒนาบริการทางการเงิน เพื่อให้ผู้ใช้บริการทุกกลุ่มได้รับบริการอย่างทั่วถึง สามารถรองรับนวัตกรรมใหมม่ๆ ในโลกดิจิทัล ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนภาคการเงินเข้าสู่ยุค Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ
ที่สำคัญ NITMX มีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงบริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพทางต้นทุนสูงสุดต่ออุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร ตลอดจนเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน National Digital Trade Platform เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีการค้าโลกด้วย
