1845 จำนวนผู้เข้าชม |
ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ (SCBS) เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เห็นชอบที่จะเข้าทำสัญญาซื้อหุ้นในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) จาก บมจ. บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Bitkub คิดเป็นมูลค่า รวมประมาณ 17,850 ล้านบาท ตามปรัชญาของบริษัทแม่ บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCBX)
ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ และ SCBS ได้ร่วมกันดำเนินการสอบทานธุรกิจ (due diligence) โดยได้รับความร่วมมือจาก Bitkub เป็นอย่างดี และในระหว่างกระบวนการสอบทานธุรกิจ บริษัทฯ และ SCBS ได้เห็นศักยภาพและความสามารถในหลายด้านของกลุ่ม Bitkub และเห็นโอกาสในการร่วมมือพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินธุรกิจของ Bitkub อีกหลายด้าน ที่สำคัญ ไม่พบข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติอันเป็นนัยสำคัญซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้
แต่เนื่องจาก Bitkub ยังมีประเด็นคงค้างที่ต้องดำเนินการหาข้อสรุปตามคำแนะนำและสั่งการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องระยะเวลาในการหาข้อสรุปดังกล่าว ผู้ซื้อและผู้ขายจึงได้ตกลงร่วมกันที่จะยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ SCBS จึงมีมติให้ SCBS ยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้น มีผลตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม
อย่างไรก็ดี มีการทิ้งท้ายด้วยว่า SCBX และ SCBS ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินแผนงานตามยุทธศาสตร์ในการเข้าสู่ธุรกิจเทคโนโลยีบล็อกเชน และสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะมีบทบาทอย่างสำคัญต่อเศรษฐกิจและภาคการเงินของประเทศไทยต่อไป จนทำให้มีการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม และพบว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) และใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ให้กับ SCBS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกัน ทาง Bitkub ได้ออกมาชี้แจงด้วยว่า การดำเนินงานและการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โดยบริษัทฯ ยังคงเป็นผู้นำตลาดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย และมีทรัพยากรสำหรับดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่องตามแผนงานและยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ของตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีคุณภาพ และประกอบธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาล เพื่อให้บริการผู้ลงทุนอย่างโปร่งใส และสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมแก่ผู้คนในสังคมต่อไป
สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ทุกสำนัก มีมุมมองเป็นบวกต่อการยกเลิกดีลนี้ เพราะเป็นการปลดล็อก overhang เนื่องจากตลาดมีความกังวลต่อดีลนี้ค่อนข้างมาก จากมูลค่าการลงทุนที่แพงเกินไป อิงจากมูลค่าการซื้อขายของ Bitkub ที่ปรับตัวลงกว่า 50% โดยการยกเลิกดีลนี้ไม่มีค่าปรับ มีเพียงค่าใช้จ่ายทำดีลในการทำ due diligence ซึ่งมีมูลค่าไม่มาก เมื่อเทียบกับฐานกำไรของ SCB
โดยหลังจากนี้ SCB อาจมีการทำ digital asset exchange ของตัวเอง เพราะได้ใบอนุญาตแล้ว หรือหา partner ใหม่ ซึ่งยังต้องติดตามอีกครั้งแต่ไม่มีความจำเป็นต้องรีบ เพราะตลาดคริปโตยังไม่ดีมาก โดยล่าสุด ตลาดให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ SCBX ปีหน้าไว้ที่ 137 บาท
และล่าสุด สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ทั้งมูดี้ส์ (Moody’s Investors Service) และฟิทช์ เรทติ้ง (Fitch Ratings) ได้ออกมาแจ้งอันดับความน่าเชื่อถือของ SCBX ในระดับลงทุนได้ (Investment Grade)
โดยมูดี้ส์จัดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ และสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Foreign and Local Currency Long-Term Issuer Rating) ที่ระดับ "Baa2" ส่วนฟิทช์ให้อันดับเครดิตสากลระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ที่ระดับ "BBB” ด้วยเหตุผลว่า SCBX มีกรอบการกำกับดูแลที่แข็งแกร่ง มีการบริหารเงินทุน และการจัดการสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพ และมีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ตึงเครียด สะท้อนให้เห็นถึงการก้าวขึ้นเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มฯ ได้อย่างสมบูรณ์ และยังสะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นในยุทธศาสตร์ของ SCBX ที่จะนำพาองค์กรสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาค ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน