บลจ.ทิสโก้ ดีเดย์ขาย IPO กองทุน China Strategy 1-9 สิงหาคมนี้ เน้นลงทุนธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีน

1887 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บลจ.ทิสโก้ ดีเดย์ขาย IPO กองทุน China Strategy 1-9 สิงหาคมนี้ เน้นลงทุนธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีน


การที่จีนมีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจระยะยาวสูง โดยในช่วงปี 2564-68  รัฐบาลจีนจะเดินหน้านโยบายต่างๆ ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14 โดยตั้งเป้าจะยกระดับประเทศในหลายมิติ เช่น ยกระดับการบริโภคในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพิงตลาดต่างประเทศ เพื่อให้การบริโภคในประเทศขยายตัวขึ้น และวางเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5.0 ทั้ง 5G, AI, Internet of Things, Semiconductors และ Smart Cities ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีนยังมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังมีแผนส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ (Healthcare) ผ่าน "Healthy China 2030 Plan" ด้วยการพัฒนาคุณภาพยาร่วมกับต่างชาติ เพิ่มความคล่องตัวในการอนุมัติยาตัวใหม่ ตลอดจนเพิ่มงบประมาณในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในอุตสาหกรรม Healthcare โดยมีการประเมินว่า งบประมาณจะเพิ่มเฉลี่ยปีละ 17.7% ใน 3 ปีข้างหน้า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่เพิ่มเฉลี่ยเพียงปีละ 4.5%

สำหรับนโยบายด้านพลังงานนั้น รัฐบาลจีนตั้งเป้าเป็นประเทศที่ "ปลอดคาร์บอน” ให้ได้ภายในปี 2603 ส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการเพิ่มกำลังการผลิต รวมถึงอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ สถานีชาร์จและรถยนต์ไฟฟ้า

ดังนั้น เพื่อให้นักลงทุนไม่พลาดการลงทุนทุกอุตสาหกรรมที่เป็นเรือธงของเศรษฐกิจจีน บลจ.ทิสโก้ จึงพร้อมเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ China Strategy  (TCHSTRATEGY) ซึ่งจะลงทุนผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ หรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศ เน้นไปที่หุ้นบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของประเทศจีน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในด้านต่างๆ รวมถึงบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกับทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนในระยะยาว กำหนดเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 1 - 9 สิงหาคมนี้ โดยมีเงื่อนไขการลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท  

ทั้งนี้ กองทุนหลักจะกระจายการลงทุนไปใน 4 กลุ่มธุรกิจของจีน เช่น กลุ่มอุปโภคบริโภค (Consumption) ซึ่งได้ประโยชน์โดยตรงจากพลังของผู้บริโภค 1,400 ล้านคนของจีน กลุ่มธุรกิจไบโอเทคโนโลยี (Biotechnology) ซึ่งได้ประโยชน์จากรัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจเฮลธ์แคร์ และการเข้าสู่สังคมสูงอายุของจีน กลุ่มธุรกิจสารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) ซึ่งได้ประโยชน์จากการสนับสนุนเทคโนโลยี เพราะสารกึ่งตัวนำถือเป็นเมล็ดพันธุ์ที่แทรกซึมในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด เช่น จอแสดงผลโทรศัพท์มือถือ หรือวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในรถยนต์ไฟฟ้า และกลุ่มสุดท้าย คือพลังงานสะอาด (Clean Technology)

สำหรับตัวอย่างบริษัทฯ ที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุน มี WuXi Biologics (Cayman) Inc. ผู้นำด้านยาและเวชภัณฑ์รายใหญ่ของจีน ผู้พัฒนาและวิจัยยาจากสารชีวภาพ ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) มีสำนักงานอยู่ทั้งในจีนและต่างประเทศ ถูกคาดหมายจากนักวิเคราะห์ใน Bloomberg Consensus (เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา) ว่า บริษัทฯ จะมีรายได้ 2 ปีนี้เติบโตปีละ 38-39%

หรือบริษัท NAURA Technology Group บริษัทชั้นนำด้าน Semiconductor ระดับ High End สำหรับอุปกรณ์ระบบแบตเตอรี่พลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศจีน ถูกคาดหมายจากนักวิเคราะห์ใน Bloomberg Consensus (เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา) ว่า บริษัทฯ จะมีการเติบโตของรายได้ปีนี้ 39% และ 34% ในปีหน้า

สำหรับเป้าหมายการลงทุน มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด คือ ดัชนี CSI 300

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้