BLS ดีเดย์ 18-19 ก.ค.นี้ เปิดขาย IPO DR “CN01” ลงทุนหุ้นหัวแถวจีน CSI300 และ DR “CNTECH01” ลงทุนหุ้นเทคจีนและฮ่องกง

ความไม่แน่นอนของสงคราม และความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทำให้ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นมีความผันผวน และอาจเกิดภาวะแรงฉุดจากความผันผวน (volatility drag) ในพอร์ตโฟลิโอได้ เนื่องจากตลาดคาดว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรจะเพิ่มขึ้นในระดับที่ชะลอตัวลง หลังจากได้มีการ priced-in เรื่องเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยไปบ้างแล้ว แต่กลับหันมากังวลภาพเศรษฐกิจชะลอตัวลงในลักษณะถดถอย (Recession) แทน  

ความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอยที่สูงขึ้น ทำให้การคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นช่วงครึ่งหลังปีนี้ เริ่มมีความเสี่ยงที่ผลประกอบการอาจจะถดถอยเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้เกิดกับดักด้านมูลค่า (Valuation trap)  จึงเป็นโอกาสในการจับจังหวะทยอยสะสมหุ้นบริษัทที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน อัตรากำไรสูง และสามารถส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นได้  

ในมุมมองของหลายค่าย อย่าง SCB CIO  มองตลาดหุ้นสหรัฐฯ "Neutral” เนื่องจากผลประกอบการยังฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ในระยะข้างหน้าจะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อสูง และการเร่งตัวของดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และให้น้ำหนักหุ้นยูโรป "slightly negative” จากผลกระทบที่ยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป ส่วนกลุ่ม Emerging Market  ให้น้ำหนัก “slightly positive” โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการทยอยเปิดเมือง และการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยต่ำกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆ 

เช่นเดียวกับ ฝ่ายวิจัย บมจ. หลักทรัพย์กสิกรไทย (KS) ที่ชอบตลาดหุ้นจีน จากพื้นฐานเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกร่ง โดยคาดเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโต 4.3% ขณะที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับปานกลาง เอื้อให้การใช้นโยบายการเงินและนโยบายการคลังเพื่อใช้เป็นเครื่องมือกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ทำได้ง่ายขึ้น ประกอบกับจะมีแรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากการคลายล๊อกดาวน์ รวมถึงการผ่อนคลายท่าทีในการกีดกันการค้าจากรัฐบาลสหรัฐฯ ช่วยสนับสนุนบรรยากาศการค้าการลงทุนมากขึ้น

มุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีนข้างต้น ทำให้ บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง (BLS) เล็งเห็นโอกาสทางการลงทุน จึงเตรียมเสนอขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt) หรือ DR น้องใหม่ 2 ตัว คือ DR "CN01” และ DR "CNTECH01” ที่เปิดทางให้นักลงทุนไทยสามารถลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้อย่างสะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพ ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย

โดย DR "CN01” ลงทุนใน China AMC CSI 300 Index ETF (3188.HK) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง อ้างอิงดัชนี CSI 300 ของจีน เน้นลงทุนในหุ้นจีนชั้นนำขนาดใหญ่ 300 บริษัท ที่ซื้อขายในกระดาน A-Share กระจายใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น Kweichow Moutai, CATL, Ping An Insurance เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนล้อเศรษฐกิจจีนโดยรวม

ส่วน DR "CNTECH01” ลงทุนใน China AMC Hang Seng TECH Index ETF (3088.HK) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง อ้างอิงดัชนี Hang Seng TECH เน้นลงทุนหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกของจีนและฮ่องกง 30 บริษัท เช่น Alibaba, Tencent, Meituan, Xiaomi  เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเกาะธีม New Economy หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นฮ่องกง   

ถึงแม้การลงทุนในหุ้นจีนอาจมีความเสี่ยงด้านนโยบายภาครัฐ แต่มูลค่าของตลาดหุ้นจีนถือได้ว่าน่าสนใจ โดยปัจจุบันดัชนี CSI 300 มี Forward P/E ปีนี้ราว 14 เท่า หากเทียบกับดัชนี S&P 500 ที่เป็นตัวแทนหุ้นขนาดใหญ่ของฝั่งสหรัฐฯ จะพบว่า อยู่ที่ 17 เท่า แต่อัตราการเติบโตกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ของ CSI 300 ปีนี้ อยู่ที่ 17% ส่วน S&P 500 อยู่ที่ 18% ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกัน ทำให้หากคิดเป็น PEG ดัชนี CSI 300 จะดูน่าสนใจกว่า 

ขณะที่ดัชนี Hang Seng TECH มี Forward P/E ปีนี้ ราว 32 เท่า และมี EPS Growth ราว 45% ซึ่งหากคิดเป็น PEG จะอยู่ที่เพียง 0.7 เท่า ถูกกว่าดัชนี NASDAQ เช่นกัน 

ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจ สามารถจองซื้อ IPO DR “CN01” และ DR “CNTECH01” ได้ในวันที่ 18-19 กรกฎาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.00 น. ผ่านช่องทางออนไลน์ บนเว็บไซต์ หลักทรัพย์บัวหลวง ที่   www.bualuang.co.th  เพียง Log In และเข้าสู่เมนู "E-IPO" หรือจองซื้อผ่านผู้แนะนำการลงทุน

โดยลูกค้าที่ประสงค์จะจองซื้อ สามารถจองซื้อตามจำนวนเงินที่ต้องการลงทุนเป็นเงินบาทในระบบ แต่กำหนดเงื่อนไขการจองซื้อขั้นต่ำที่ 20,000 บาท และเพิ่มเป็นทวีคูณของ 1,000 บาท โดยจะได้รับการจัดสรรจำนวนหน่วย DR ตามราคาเฉลี่ยของราคาหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ผู้ออกตราสารซื้อได้ รวมค่าธรรมเนียมในการซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศ ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยน (ในเบื้องต้น ราคาโดยประมาณ ณ วันที่ 7 กรกฎาคม ของ DR “CN01” จะอยู่ที่หน่วยละ 24.71 บาท โดยอัตรา 1 หลักทรัพย์อ้างอิงต่อ 10 DR และ DR "CNTECH01 อยู่ที่หน่วยละ 28.30 บาท โดยอัตรา 1 หลักทรัพย์อ้างอิงต่อ 1 DR)

ส่วนข้อดีในการจองซื้อ DR "CN01” และ DR "CNTECH01” ช่วง IPO ก็คือ นักลงทุนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องค่าธรรมเนียมการซื้อขายบนกระดานหุ้นได้ ขณะเดียวกัน ราคายังจะสะท้อนต้นทุนการซื้อ China AMC CSI 300 Index ETF (สำหรับ DR "CN01”) China AMC Hang Seng TECH Index ETF (สำหรับ DR "CNTECH01") แบบล็อตใหญ่ (Big Lot) อีกด้วย