AWC มั่นใจทุกกลุ่มธุรกิจกลับมาแข็งแรงเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด หลังผลดำเนินงานไตรมาสแรกโตก้าวกระโดด

บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) โชว์ผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งด้านรายได้และกำไร โดยมีรายได้รวม 2,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 645 ล้านบาท เติบโตกว่า 200% YoY  

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ชี้แจงว่า การคลายตัวของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ประกอบกับผลดีจากนโยบายการเปิดประเทศ และการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศที่มีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ ฟื้นตัว และมีผลดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น

อย่างกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ ได้ปัจจัยหนุนจากอัตราการเข้าพักในตลาด High-to-Luxury ที่ถือเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน โดยพบว่า โรงแรมในเครือมีผลดำเนินงานโดดเด่นกว่าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกัน นโยบายเปิดประเทศ และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภาครัฐ  ช่วยผลักดันให้กลุ่มโรงแรมสำหรับประชุมสัมมนา (MICE) กลับมาฟื้นตัวตามไปด้วย

ส่วนในกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ เนื่องจากธุรกิจเริ่มฟื้นกลับตัว ทำให้มีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงต้นปีมีหลากหลายเทศกาลสำคัญที่ช่วยหนุนให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน มีจำนวนผู้เช่ารายใหม่เข้ามาทำสัญญาการเช่าพื้นที่สำนักงาน บนทำเลที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นในมาตรฐานการให้บริการ การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ ตลอดจนการมีมาตรการกำกับดูแลด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยในระดับ A และ A- ช่วยให้บริษัทฯ ยังคงมี ผลดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และตอกย้ำให้เห็นถึงกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงของการหารายได้ของบริษัทฯ (Well-Diversified) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ AWC สามารถลดความผันผวนของรายได้ และยังคงมีผลดำเนินงานที่มั่นคง

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังมีโปรแกรม AWC Infinite Lifestyle เชื่อมโยงการให้บริการของทุกกลุ่มธุรกิจผ่านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์การและความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้มาใช้บริการ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างฐานลูกค้าและเพิ่มแรงจูงใจในการเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสะดวกรวดเร็วไร้รอยต่อ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

"ผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับหลายๆ ไตรมาส ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ชี้ให้เห็นสัญญาณบวกของเศรษฐกิจในภาพรวมที่กลับมาฟื้นตัว ซึ่งทาง AWC มั่นใจว่ากลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือจะสามารถกลับมาแข่งขันและดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งปีนี้” นางวัลลภา กล่าว 

ที่สำคัญ ตลอดช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิดกว่า 2 ปีที่ผ่านมา AWC มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน เพื่อวางรากฐานในการสร้างคุณค่าระยะยาว ควบคู่ไปกับการผลักดันการเติบโตของธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน ส่งผลให้ปีนี้ บริษัทฯ ทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างโครงการ “เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น” สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ริมสายน้ำเจ้าพระยา ในเดือนมกราคม ตามมาด้วยการเปิดโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ โรงแรมจากเครือมีเลียแห่งแรกของภาคเหนือ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตามยุทธศาสตร์ในการผลักดันเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระดับลักชัวรี่ของภูมิภาค

สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ AWC พร้อมเดินหน้าพัฒนาทรัพย์สินให้สามารถสร้างกระแสเงินสดอย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก ช่วยยกระดับการแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ รวมถึงกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล ภายใต้พันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายในปีนี้และก้าวกระโดดต่อไปในอนาคต