973 จำนวนผู้เข้าชม |
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. (PTTEP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้าไปเป็นผู้ดำเนินการผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งบงกช ในโครงการจี 1/61 เพิ่มเติมจากโครงการ จี 2/61 ที่ดำเนินการอยู่แล้ว ถึงแม้รูปแบบในการดำเนินการโครงการจี 1/61จะเป็นการเปลี่ยนผ่านผู้ดำเนินการก็ตาม แต่บุคลากรส่วนใหญ่ยังคงเป็นบุคลากรชุดเดิมที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งได้เข้ามาร่วมปฏิบัติภารกิจเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย ก่อนที่ ปตท.สผ. จะเดินหน้าผลิตก๊าซธรรมชาติอย่างเต็มตัว เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคในประเทศให้มีเพียงพออย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ PTTEP จะเร่งติดตั้งแท่นหลุมผลิต (Wellhead Platform) จำนวน 8 แท่น วางท่อใต้ทะเล เจาะหลุมผลิตอีกประมาณ 183 หลุม และจัดหาแท่นเจาะเพิ่มอีก 2 แท่น เพื่อเจาะหลุมผลิตเพิ่มเติมจากแผนพัฒนาเดิมที่วางไว้อีก 52 หลุม ตลอดจนดำเนินการตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์การผลิตและระบบต่างๆ วางแผนการบำรุงรักษา เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีความพร้อมและปลอดภัยสำหรับการผลิต
ในเบื้องต้น คาดว่า อัตราการผลิตในโครงการจี 1/61 ในช่วงการเปลี่ยนผ่านผู้รับสัมปทาน คาดว่า จะมีอัตราการผลิตวันละ 250-300 ล้านลูกบาศก์ฟุต อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มอัตราการผลิตให้ได้วันละ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต ภายในเดือนเมษายน ปี 2567
ส่วนโครงการจี 2/61 ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการอยู่แล้วนั้น สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่องตามแผนงาน โดยผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งบงกชได้วันละ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุต
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างเตรียมการพัฒนาโครงการจี 1/61 ปตท.สผ. เตรียมแผนเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งบงกชขึ้นอีกประมาณ 125 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากโครงการอาทิตย์เพิ่มอีกวันละ 60 ล้านลูกบาศก์ฟุต และจากโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (MTJDA) อีกวันละ 30-50 ล้านลูกบาศก์ฟุต รวมเป็นปริมาณการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 200-250 ล้านลูกบาศก์ฟุต เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อประชาชนและประเทศ
"การเข้าเป็นผู้ดำเนินการแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ทั้ง 2 แหล่ง เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ทางพลังงาน ที่มีศักยภาพการผลิตก๊าซธรรมชาติรวมกันถึงวันละ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุต คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ของประเทศ ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของ ปตท.สผ. ในฐานะที่เป็นบริษัทพลังงานที่มุ่งมั่นจะดำเนินภารกิจด้านพลังงานเพื่อประเทศและคนไทยอย่างเต็มความสามารถ” นายมนตรี กล่าวทิ้งท้าย
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้แจ้งต่อผู้ร่วมทุนในโครงการเยตากุน เพื่อขอถอนการลงทุนในโครงการ รวมถึงยุติการลงทุนในบริษัท ทะนินทะยี ไพพ์ไลน์ จำกัด (Taninthayi Pipeline Company LLC หรือ TPC) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการเกี่ยวกับท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติจากแหล่งเยตากุนมายังประเทศไทย เพื่อมุ่งเน้นโครงการที่มีความสำคัญต่อการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ ตามกรอบกลยุทธ์การบริหารจัดการโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ ปตท.สผ.
อนึ่ง โครงการเยตากุน ตั้งอยู่นอกชายฝั่งอ่าวเมาะตะมะ ในปีที่่ผานมา มีปริมาณขายก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยวันละ 17 ล้านลูกบาศก์ฟุต และคอนเดนเสทวันละประมาณ 560 บาร์เรล โดย ปตท.สผ. มีการลงทุนในโครงการนี้ ในสัดส่วน 19.31% ซึ่งบริษัทฯ พร้อมโอนการลงทุนทั้งหมดให้กับผู้ร่วมทุนที่เหลืออยู่ในโครงการโดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งจะมีผลอย่างเป็นทางการเมื่อได้รับอนุมัติจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป