580 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยงานวิจัยล่าสุด เกี่ยวกับแนวโน้มยอดขายรถยนต์ใหม่ปีนี้ ว่า จะพลิกฟื้นจากหดตัว 4.2% ในปีที่แล้ว มาเป็นขยายตัวระหว่าง 5.4-12.0% เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และปัญหาการขาดแคลนชิปอิเล็กทรอนิกส์ ที่กดดันให้รถยนต์บางรุ่น บางยี่ห้อ ต้องหยุดผลิตลงเป็นระยะเวลาหนึ่ง อย่างในปีก่อน เริ่มคลายตัวลงไป อีกทั้งยังมีปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐ ที่ออกมาตรการกระตุ้นให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicle - BEV) ช่วยกระตุ้นตลาด โดยคาดการณ์ยอดขายรถ BEV ปีนี้ ที่ 4,000-5,000 คัน ขยายตัวจากปีที่ผ่านมา 104.7-155.9%
งานวิจัยดังกล่าว ถูกนำมาต่อยอดและประยุกต์ใช้สำหรับวางแผนธุรกิจประจำปี ของ ลีสซิ่งกสิกรไทย (K-Leasing) โดยนายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ K-Leasing บอกว่า ในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าเชิงรุกสอดรับกับนโยบาย Green Zero ของ บริษัทแม่ ธนาคารกสิกรไทย ด้วยการเสนอโปรแกรมพิเศษสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ BEV ที่สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยลูกค้าที่ออกรถ BEV และใช้ "สินเชื่อรถใหม่" รับสิทธิ์ขับฟรี ผ่อน 0 บาท เป็นเวลา 90 วัน ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน
ส่วน "สินเชื่อรถใช้แล้ว” เตรียมขยายการให้บริการสำหรับสินเชื่อรถมือสอง ประเภทรถบ้าน ด้วยแคมเปญ "Extended Warranty” ขยายระยะเวลาประกันอะไหล่รถครอบคลุม 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 เมษายน
สำหรับลูกค้าที่ยังผ่อนรถอยู่ ไม่ว่ากับที่ไหน สามารถนำมาขอสินเชื่อรถช่วยได้ ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา ผ่านสินเชื่อ "รถช่วยได้ ผ่อนอยู่ก็กู้ได้" โดยนอกจากจะได้รับวงเงินเพิ่มแล้ว ยังลดค่างวดที่ผ่อนอยู่อีกด้วย เพื่อช่วยลดภาระหนี้ต่อเดือนของลูกค้าให้เล็กลง เนื่องจากปัจจุบัน เริ่มมีรถเข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาดเพิ่มขึ้น ประกอบกับกำลังซื้อของประชาชนบางส่วนลดลง ทำให้เข้าไม่ถึงการซื้อรถใหม่
ขณะที่ "สินเชื่อรถช่วยได้" ที่มุ่งเน้นเสริมสภาพคล่องทางการเงินของคนมีรถ และต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนหมุนเวียนเพื่อประกอบธุรกิจ หรือใช้จ่ายอเนกประสงค์ มีการออกผลิตภัณฑ์ "รถช่วยได้ ไม่ต้องใช้เอกสารรายได้" ลดขั้นตอนยุ่งยากด้านเอกสาร ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
เช่นเดียวกับลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด บริษัทฯ พร้อมเสนอโปรแกรมให้ความช่วยเหลือ ทั้งรูปแบบมาตรการช่วยเหลือ และสินเชื่อรถช่วยได้ เพื่อแบ่งเบาภาระ โดยปรับระยะเวลาการผ่อนชำระให้ยาวขึ้น ทำให้ลูกค้ายังสามารถผ่อนชำระ และมีรถยนต์เพื่อใช้ประกอบอาชีพต่อไปได้
ทั้งนี้ K-Leasing จะเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทุกไตรมาส รวมไปถึงพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้สามารถเสนอผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้อย่างรู้ใจ ถูกที่ และถูกเวลา ตลอดจนจับมือร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่ ทั้งผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ดีลเลอร์ผู้แทนจำหน่ายรถใหม่ และรถใช้แล้ว เพื่อการทำการตลาดร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้ผลดำเนินงานของบริษัทฯ ปีนี้เติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้วตามไปด้วย
สำหรับผลดำเนินงานของ K-Leasing ในปีที่ผ่านมา สามารถขยายฐานสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 5.46% เป็น 1.21 แสนล้านบาท หนุนโดยยอดปล่อยสินเชื่อรถใหม่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 32% สวนทางตลาดที่ติดลบ 4.2% ควบคู่ไปกับยอดปล่อยสินเชื่อรถช่วยได้ ที่เติบโต 31% ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้เพิ่มบริการสินเชื่อรถใช้แล้ว ผ่านช่องทางเต็นท์รถยนต์ ซึ่งปกติจะมีความเสี่ยงสูงมาก แต่เนื่องจากแนวนโยบายบริหารความเสี่ยงที่มีความยืดหยุ่น และรัดกุม สามารถตอบโจทย์ผู้ซื้อและผู้ขายรถยนต์ทั้งดีลเลอร์รถใหม่ และรถใช้แล้ว ได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดได้เกือบ 5 หมื่นราย ส่งผลให้สินเชื่อไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 1.12% ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า 0.20% ทั้งยังได้ทำการปรับปรุงกระบวนการทำงานและควบคุมค่าใช้จ่ายดีขึ้นส่งผลให้ K-Leasing มีกำไร 1,710 ล้านบาท เติบโต 52.86%