SCB จับมือ GUNKUL ช่วยลูกค้าประหยัดไฟแบบสบายกระเป๋า ผ่านแคมเปญ "ร้อนนี้ติดโซลาร์หั่นค่าไฟ"
341 จำนวนผู้เข้าชม |
นางสาวอรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า นอกเหนือจากโซลูชั่นทางการเงิน ปีนี้ธนาคารจะเพิ่มบทบาทในการพัฒนาโซลูชั่นที่สร้างความผูกพันระหว่างธนาคารกับลูกค้า (Engagement Solution) เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้า ทำให้ล่าสุด ธนาคารผนึกกำลังกับ บมจ. กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) พันธมิตรที่มีความชำนาญด้านพลังงานทดแทนกว่า 40 ปี ให้เข้ามาช่วยให่้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟ แก่ลูกค้าสินเชื่อบ้าน และลูกค้าทั่วไปของธนาคาร ภายใต้แคมเปญ "ร้อนนี้ ติดโซลาร์หั่นค่าไฟ"
โดยลูกค้าที่สนใจติดตั้งโซลาร์ รูฟ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายนนี้ จะได้รับส่วนลดสูงสุด 59,900 บาท พร้อมบริการฟรีค่าสำรวจหน้างาน และรับประกันการติดตั้ง 2 ปี เพื่อเป็นการตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ของการทำงานที่บ้านมากขึ้น รวมถึงกระแสตอบรับกับการใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน
โอกาสนี้ ธนาคารพร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกชำระค่าติดตั้งโซลาร์รูฟได้หลายวิธีด้วย ไม่ว่าจะเป็น การโอนจ่ายเต็มจำนวนผ่านแอป SCB EASY หรือรูดจ่ายเต็มจำนวนผ่านบัตรเครดิต SCB ทุกประเภท ตลอดจนผ่อนชำระเท่าเดิม ไม่เพิ่มภาระด้วย "สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม" และ "สินเชื่อบ้านคือเงิน" สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน ซึ่งคาดว่า จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนหนึ่งๆ 3,000 บาทขึ้นไปเป็นอย่างดี เพราะบริการติดตั้งโซลาร์รูฟ สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้สูงสุดเดือนละ 60%
นอกจากนี้ บริการดังกล่าวยังอาจช่วยเพิ่มรายได้ให้ลูกค้าอีกทาง หากลูกค้ามีไฟฟ้าส่วนที่ เหลือใช้ สามารถนำมาขายให้แก่ภาครัฐ โดย GUNKUL จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการประสานงานกับภาครัฐให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการด้วย
และในอนาคต SCB มีแผนขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรมเพิ่มเติม เพื่อสร้างความแข็งแรงให้แก่ระบบนิเวศน์ธุรกิจ ตลอดจนรักษาความผูกพันระหว่างลูกค้ากับธนาคาร อันเป็นแนวทางของวิถีการทำธุรกิจการเงินอย่างยั่งยืน
ขณะที่นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ สายงานกลยุทธ์การลงทุนและธุรกิจนวัตกรรมพลังงาน GUNKUL และกรรมการ บริษัท กันกุล โซลาร์ คอมมูนิตี้ จำกัด หรือ GRoof ผู้ให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแบบครบวงจร บอกว่า ปัจจุบันโซลาร์รูฟได้รับความสนใจมากขึ้น ทั้งจากปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าที่จัดเก็บในอัตราขั้นบันได และความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ทวีคูณในช่วงวิกฤติการณ์โควิด
นอกจากนี้ กระแสผลักดันในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มขยายตัวในวงกว้างมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ พร้อมพัฒนาพื้นที่หลังคาให้เป็นพื้นที่ที่เป็นประโยชน์ สามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ตลอดจนตอบโจทย์เรื่องค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าของบ้าน หรือลดต้นทุนทางธุรกิจให้กับธุรกิจต่างๆ รวมถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในที่อยู่อาศัยมากขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาสภาพสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว
ความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ครั้งนี้ จะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องลงทุนเงินก้อน แต่เลือกชำระในแบบที่เหมาะกับตัวเองที่สุด แล่้วปล่อยให้หน้าที่ในการออกแบบ จัดหาอุปกรณ์ และติดตั้งเป็นหน้าที่ของ GRoof ที่มีประสบการณ์ในการให้บริการมาอย่างยาวนาน จนได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายอุตสาหกรรม ให่้เป็นผู้ติดตั้งโซลาร์รูฟ ด้วยกำลังการผลิตมากกว่า 100 เมกะวัตต์ (MW) แล้ว ที่สำคัญ บริษัทฯ พร้อมให้คำปรึกษา และยังมีบริการหลังการขายที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ตามพันธกิจที่บริษัทฯ ยึดมั่นมาโดยตลอด
