SCBAM เปิดตัวกองทุนใหม่มุ่งลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า เสนอขาย IPO 21-25 ก.พ. นี้

532 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SCBAM เปิดตัวกองทุนใหม่มุ่งลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า เสนอขาย IPO 21-25 ก.พ. นี้


กระแสตื่นตัวเรื่องพลังงานสะอาด และสังคมสีเขียว (Green Ecosystem) เพื่อก้าวสู่การเป็น Net Zero ของนานาประเทศ ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) กลายเป็นสินค้าที่มีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจโลกในทศวรรษหน้า ทำให้ บลจ. ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เล็งเห็นโอกาสการลงทุนใน Theme EV ที่เปิดกว้าง จึงเปิดตัวกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Electric Vehicles and Future Mobility (SCBEV) พร้อมกันใน 3 ลักษณะ ได้แก่ ชนิดสะสมมูลค่า (SCBEV-A) ชนิดช่องทางอิเล็คทรอนิกส์ (SCBEV-E) และชนิดเพื่อการออม (SCBEV-SSF) กำหนดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 21 - 25 กุมภาพันธ์นี้ ด้วยวงเงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท

ทั้งนี้ กองทุนเปิด SCBEV มีนโยบายการลงทุนผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) คือ กองทุน KraneShares Electric Vehicles & Future Mobility Index ETF ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ NYSE ภายใต้การบริหารจัดการของ Krane Funds Advisors, LLC โดยลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)

ทั้งนี้ กองทุนหลักกำหนดกรอบการลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนีอ้างอิง ใบรับฝากหลักทรัพย์ รวมถึงใบรับฝากหลักทรัพย์ของอเมริกา (ADR) ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้นดังกล่าว ใบรับฝากหลักทรัพย์ในดัชนีอ้างอิง และตราสารที่มีลักษณะคล้ายกับหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนีอ้างอิง โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม (NAVs)

นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่ไม่อยู่ในดัชนีอ้างอิง ครอบคลุมตราสารทุน ใบรับฝากหลักทรัพย์ของผู้ออกหลักทรัพย์ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีอ้างอิง ตราสาร อนุพันธ์ (รวมถึงสวอป ฟิวเจอร์ส ฟอร์เวิร์ด ตราสารที่มีลักษณะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง และออปชั่น) รวมถึงกองทุน ETF อื่นๆ เงินสดหรือตราสารเทียบเท่าเงินสด รวมถึงกองทุนตลาดเงิน ได้ในสัดส่วนสูงถึง 20% ด้วย เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย ให้ใกล้เคียงหรือสูงกว่าดัชนีอ้างอิง คือ Bloomberg Electric Vehicles Index

ซึ่งดัชนี Bloomberg Electric Vehicles Index ถูกออกแบบมาเพื่อใช้วัดผลดำเนินงานของหุ้นบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือส่วนประกอบ หรือในสิ่งที่ริเริ่มขึ้นใหม่อื่นๆ ที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงอนาคตของการเดินทางและการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บพลังงาน เทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ การทำเหมืองลิเธียม เหมืองทองแดง หรือเซลล์ เชื้อเพลิงไฮโดรเจน

ส่วนผลดำเนินงานของกองทุน KraneShares Electric Vehicles & Future Mobility Index ETF ย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 41.67% และ 1 ปี อยู่ที่ 24.06% ใกล้เคียงดัชนีอ้างอิง Bloomberg Electric Vehicles Index ที่สร้างผลตอบแทนราว 43.44% และ 25.81% ตามลำดับ
 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้