365 จำนวนผู้เข้าชม |
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในรอบปีที่ผ่านมา ว่า บริษัทฯ สามารถทำยอดขาย (Presales) โครงการที่อยู่อาศัยได้ทั้งสิ้น 3.02 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.9 หมื่นล้านบาท 1.02 พันล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายคอนโดมิเนียม 72% และบ้านจัดสรร 28% หรือหากแบ่งตามสถานะโครงการ จะเป็นยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) 65% และกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขาย หรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) 35%
"ปี 2564 นับเป็นปีที่ไม่ง่ายสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยภายนอกเกิดขึ้นตลอดทั้งปี ทั้ง สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส 2 ระลอก จนทำให้เกิดการล็อคดาวน์ เกิดการปิดแคมป์ก่อสร้าง อย่างไรก็ดี การนำเอาผลการศึกษาข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงของกลุ่มเป้าหมายลูกค้าแต่ละประเภท มาประยุกต์ใช้ในการทำตลาด ควบคู่ไปกับการวางแผนการตลาด ทำให้บริษัทฯ มีลูกเล่นใหม่ๆ ที่สามารถเข้าถึง และตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ยังคงมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การจัดมหกรรมคอนโดมีเนียมออนไลน์ property Live หรือการเจาะเซ็กเมนท์ใหม่ๆ ทำให้บริษัทฯ ทำยอดขายทั้งปีได้สูงกว่าเป้าหมาย และสามารถทำ New High ครั้งใหม่ได้ในที่สุด” นายพีระพงศ์ ให้เหตุผล
ทั้งนี้ ORI มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมหลากหลายแบรนด์อย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา อาทิ บริกซ์ตัน (Brixton) เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มในราคาที่เข้าถึงได้ เช่น คอนโดมิเนียมสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง คอนโดมิเนียมสำหรับนักศึกษา, ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) เจาะตลาดกลุ่มสตาร์ทอัพ, ออริจิ้น เวลเนส เรสซิเดนซ์ (Origin Wellness Residence) เจาะตลาดกลุ่มผู้สูงวัย และแฮมป์ตัน (Hampton) ที่มีหลายซับแบรนด์ เจาะกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยทุกแบรนด์ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน โครงการบ้านจัดสรรภายใต้ บมจ. บริทาเนีย (BRI) ก็สามารถสร้างยอดขายระดับ All Time High ได้ต่อเนื่องทุกปี
สำหรับภาพรวมปีนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORI เชื่อมั่นว่า บริษัทฯ จะยังคงทำยอดขายในระดับ All Time High ได้ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกรุมเร้าต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ หรือเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น จนส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และค่าครองชีพตามมา ซึ่งคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะเชื่อว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสที่เกิดขึ้นมา 2 ปี ทำให้ทุกภาคส่วนมีภูมิคุ้มกัน และขีดความสามารถในการปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีการเตรียมแผนรับมือ และมาตรการรองรับไว้ในระดับหนึ่งแล้ว
"เราเตรียมแผนใหญ่ไว้หลายด้านตลอดปี 2565 รวมถึงจะมีเมกะโปรเจ็คท์ ที่จะมาพลิกเกมการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสร้างอีกระดับของการใช้ชีวิตให้แก่ผู้บริโภค คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ ได้ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือกลางเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORI กล่าวทิ้งท้าย