JMART ประกาศโตก้าวกระโดดยกกลุ่ม ขานรับการผันตัวเป็น Technology Invesment Holding Company 

408 จำนวนผู้เข้าชม  | 

JMART ประกาศโตก้าวกระโดดยกกลุ่ม ขานรับการผันตัวเป็น Technology Invesment Holding Company 


นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท (JMART) ประกาศกลยุทธ์ในการทำธุรกิจของกลุ่ม JMART ประจำปีนี้ ว่า เตรียมปรับโครงสร้างองค์กร (transform) จาก Invesment Holding Company มาเป็น Technology Invesment Holding Company โดยอาศัยเทคโนโลยี บล็อกเชน และ Big Data ร่วมกับการ Synergy กับกลุ่มพันธมิตร ช่วยในการขับเคลื่อนธรุกิจ และผลักดันการเติบโตทั้งกลุ่ม

โดย JMART วางเป้า Net profit ปีนี้ เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% ผ่านงบลงทุนร่วม 2 พันล้านบาท ใน 3 บริษัท ได้แก่

-  JayDee Group เพื่อนำสินค้า J-mobile, SINGER รวมถึง product ประกันและ product สินเชื่อของ KB J เข้าไปเสริมที่ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า

 - JV GUNKUL ให้บริการติดตั้ง Solar Rooftop รองรับ Green energy trend และ product กัญชง ซึ่งมีแผนที่จะนำบริษัทร่วมทุนนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตด้วย          

- Thailand AmZ  พัฒนาด้าน E-commerce และ Financial Solution Platform ซึ่งกำลังอยู๋ในระหว่างการเจรจารายละเอียดต่างๆ กับพันธมิตร เพื่อจัดตั้งเป็นบริษัทขึ้นมา  

นอกจากนี้ยังมีวงเงินสำหรับการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่จะมาเสริมใน Ecosytem ของ JMART ได้ โดยธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุนนั้น จะต้องเป็น Retail Consumer และ Innovation ที่น่าสนใจ และต้องมีผลดำเนินงานดีด้วย



ด้านนายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ให้ข้อมูลว่า ตั้งเป้า Net profit  ปีนี้เติบโต 45% จากการรับรู้รายได้ในส่วนของพอร์ตหนี้ที่เข้าลงทุนราว 7 พันล้านบาทในปีที่ผ่านมา และพร้อมขยายพอร์ตเพิ่มในปีนี้ ด้วยงบลงทุนที่ 1 หมื่นล้านบาท ซื้อหนี้จากสถาบันการเงิน ที่คาดว่าจะมีการขายหนี้ออกมาเป็นจำนวนมาก หลังจากลูกค้าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด สร้างการเติบโตของรายได้ และกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

สำหรับการลงทุนร่วมกับ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เพื่อทำธุรกิจให้บริการติดตามหนี้ และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปีนี้ และจะเริ่มต้นรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 3 เป็นต้นไป ก่อนรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2566 

ส่วนนายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER) ชี้แจงว่า ตั้งเป้า Net profit ปีนี้ เติบโต 75% จากการขยายสินเชื่อเพิ่ม 5 พันล้านบาท เป็น 1.5  หมื่นล้านบาท พร้อมกับขยายแฟรนไชส์รวม 7,000 แห่ง เพื่อเป็นฐานในการบุกตลาดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง และขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมร่วมกับ BTS Group และพันธมิตร นอกจากนี้ ธุรกิจยังได้รับผลบวกจาก Interest savings รวมราว 200 ล้านบาท ที่เกิดจากการจ่ายคืนหุ้นกู้ 1.5 พันล้านบาท และการขยายพอร์ตด้วยเงินทุน PP+RO  

นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์สำคัญ ด้วยการผลักดัน บริษัท เอสจี แคปปิตอล (SGC) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SINGER เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ฯ ภายในปีนี้ด้วย 

ขณะที่นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) เปิดเผยว่า ตั้งเป้ากำไรสุทธิปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ IT Junction ที่เริ่มกลับมาคึกคัก หรือธุรกิจ JAS Property ที่จะเน้นบ้านมือสองพร้อมอยู่ โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ที่ 100 ล้านบาท โดยพร้อมดำเนินการควบคู่ไปกับการขยายสาขาธุรกิจศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์อีกหลายสาขา รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจ Health Care and Service สำหรับผู้สูงอายุ ภายใต้แบรนด์ SENERA โดยจะเปิดให้บริการที่ศูนย์การค้าชุมชน JAS GREEN VILLAGE-KUBON ที่แรกภายในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ก่อนเพิ่มเป็น 10 แห่ง ภายใน 3 ปี 

พร้อมกันนั้น นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J VENTURE – JVC) เล่าให้ฟังว่า ได้กำหนด Roadmap Synergy ปีนี้ 3 เรื่องหลัก เรื่องแรก จะร่วมมือกับ BTS เพื่อ Redeem Rewards ด้วย JFIN Coupon ในเดือนมกราคมนี้ ต่อด้วยการ Listing JFIN บน Zipmex พ่วงบริการ Top-up Rabbit Card ในเดือน กุมภาพันธ์ และเดนิหน้ายกระดับ JFIN Credit ให้เป็น Crypto Lending Protocol ในเดือนเมษายนตามมา




สำหรับบริษัท เคบีเจ แคปปิตอล จำกัด (KBJ) ทางประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายจอง วอน ซ็อก ประกาศตั้งเป้า Net profit เติบโต 100% และตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อ 100% ผ่านการเปิดตัว Cash card ให้บริการสำหรับสินเชื่อ Kashjoy และพัฒนา Credit Model หนุนประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง

สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์ ในเบื้องต้น โนมูระ พัฒนสิน (CNS) ระบุว่า การตั้งเป้าการเติบโตของกำไรปีนี้ของ JMART ในอัตรา 50% เพื่อให้สอดรับกับการปรับองค์กรเป็น Technology Investment Holding Company ผ่านระบบ Ecosystem ใน Consumer finance ของกลุ่ม JMART ควบคู่ไปกับการหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่น่าจะทำได้ และสอดรับกับประมาณการที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ฯ ทำไว้ก่อนหน้านี้ จึงแนะนำ “ซื้อ” JMART ด้วยราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 60 บาท รวมถึงแนะนำ “ซื้อ” JMT ด้วยเช่นกัน โดยมีราคาเป้าหมายปีนี้ที่  75 บาท  

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้