โบรกเกอร์มองดีล GUNKUL กับกลุ่ม JMART สร้าง synergy ทันที รอลุ้นไตรมาสแรก

431 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โบรกเกอร์มองดีล GUNKUL กับกลุ่ม JMART สร้าง synergy ทันที รอลุ้นไตรมาสแรก

หลังจากคณะกรรมการ บมจ. เจมาร์ท (JMART) บมจ. ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER) และ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ตกลงทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ที่มีเงินลงทุนขั้นต้น 1 ล้านบาท โดย GUNKUL จะถือหุ้นในสัดส่วน 50% ขณะที่ JMART และSINGER ถือหุ้น 40.1% และ 9.9% ตามลำดับ เพื่อร่วมกันประกอบธุรกิจ 4 กลุ่ม ได้แก่ 

1. ธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่น ผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายของ JMART และ SINGER ทั่วประเทศ รวมถึงการจัดหาสินเชื่อโดยกลุ่ม JMART 
2.พัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชง และศึกษาความเป็นไปได้ในการทำศูนย์กัญชงกัญชาเพื่อสุขภาพ
3. พัฒนาการร่วมลงทุนให้การลงทุนติดตั้งระบบ Solar Rooftop เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า และโอกาสการขายไฟฟ้าร่วมกัน ภายใต้เครือของกลุ่มธุรกิจเจมาร์ท และการลงทุนทางด้านสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ (EV Charging Station)
4. ศึกษาความเป็นไปได้ Synergy ด้านอื่นเพิ่มเติม รวมถึงเรื่องการศึกษาเรื่อง Utility Token เพื่อนำมาปรับใช้ในผลิตภัณฑ์ของบริษัท

ในเบื้องต้น นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายงานกลยุทธ์การลงทุนและนวัตกรรม GUNKUL ชี้แจงว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถกระจายโซลาร์โซลูชั่น โดยปลดล๊อกข้อจำกัดด้านเงินทุนออกไปได้ จากการต่อยอดบริการด้านการเงินและสินเชื่อ เพิ่มเป็นทางเลือกให้ลูกค้าในการจับจ่ายใช้สอยพลังงานได้ง่ายขึ้นและเท่าเทียม ถือได้ว่า เป็นการปฏิวัติการทำตลาด Retail และบริการด้านพลังงาน ให้เป็น "Last-mile Energy Delivery"  

ด้านนายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GUNKUL เสริมว่า หากผลการศึกษาความเป็นไปได้ออกมาว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต่างได้ประโยชน์ในระดับที่น่าพอใจ พร้อมเดินหน้าเจรจากับกลุ่ม JMART เพื่อให้สามารถจัดตั้งบริษัทร่วมทุนได้ภายในไตรมาสแรกปีหน้าทันที  

ขณะที่นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม JMART เชื่อมีั่นว่า การร่วมทุนครั้งนี้ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับภาพลักษณ์ด้านพลังงาน และวงการค้าปลีก รวมทั้งขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นผู้นำด้าน Financial Technology และการสร้างสังคมพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนในอนาคตอันใกล้ โดย JMART จะเป็นผู้นำรายแรกๆ ที่ปรับใช้ดิจิทัลโทเคนในธุรกิจพลังงานและกัญชง ที่กำลังจะชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า

ซึ่งหากการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง GUNKUL และกลุ่ม JMART เกิดขึ้นจริง นักวิเคราะห์ 3 ค่าย คือ โนมูระ พัฒนสิน (CNS) กสิกรไทย (KS) และเอเซีย พลัส (ASPS) คิดตรงกันว่า จะเกิด synergy ในการทำธุรกิจทันที เพราะบริษัทร่วมทุนจะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับ GUNKUL ได้ทั้งธุรกิจ EPC และธุรกิจกัญชง โดยธุรกิจ EPC จะมีงานในมือ (backlog) เพิ่มขึ้นตามความต้องการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จากลูกค้าของธุรกิจร่วมทุนที่สูงขึ้น เพราะลูกค้าสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านการเงิน ในการลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จากพันธมิตรของกิจการร่วมค้า และสามารถจับตลาดต่างจังหวัดผ่านจุดเชื่อมต่อ เช่น สาขาของหุ้นส่วนได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างกระแสเงินสดจากการขายไฟฟ้าได้ นอกเหนือไปจากจะช่วยให้กลุ่ม JMART ประหยัดค่าไฟฟ้า และค่าไฟฟ้าที่ประหยัดลงไป จะ cash back เป็นกำไรที่ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถแบ่งกันได้ด้วย

ขณะที่ธุรกิจกัญชง และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถเข้าถึงช่องทางการจำหน่ายให้กับลูกค้าผ่านสาขาของ JMART กว่า 282 สาขา และฐานลูกค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงการขายแบบสินเชื่อ ยังจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและยอดขายให้กับบริษัทฯ ได้

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 ค่าย ยังไม่ปรับประมาณการกำไร และราคาเป้าหมายของ GUNKUL จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของธุรกิจร่วมทุน

ซึ่ง CNS คาดกำไรปกติไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ที่ 592 ล้านบาท ขยายตัว 13% เทียบไตรมาสต่อไตรมาส (QoQ) และ 5% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) เพราะบริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากธุรกิจ Solar Farm ที่เวียดนาม และการฟื้นตัวของธุรกิจ EPC ส่วนธุรกิจกัญชงคาดจะเริ่มเห็นส่วนแบ่งกำไรจาก THCG เข้ามาในไตรมาสนี้ แต่จะเริ่มเห็นกำไรจากธุรกิจกัญชงอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีหน้าเป็นต้นไป จึงยังคงประมาณการกำไรปีนี้ ที่ 2,202 ล้านบาท และปีหน้าที่ 2,855 ล้านบาท (ขยายตัว 30% YoY) เพราะธุรกิจกัญชงน่าจะสร้างรายได้ปีหน้าได้ราว 350 ล้านบาท ก่อนเพิ่มเป็น 620 ล้านบาทในปี 2565 และยังคงราคาเป้าหมายที่ 6 บาท เหมือนดิม

ขณะที่  ASPS และ KS บอกว่า การตั้งบริษัทร่วมทุนถือเป็น upside ส่วนเพิ่ม ที่ยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ จึงทำให้แผนขยายกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ กับความสำเร็จของธุรกิจกัญชง ยังคงมีน้ำหนักในการประเมินมูลค่าหุ้น ซึ่ง ASPS ให้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่  5.60 บาท ส่วน KS ยืนราคาเป้าหมายเดิมที่ 5.35 บาท ต่อไป

สำหรับ JMART ทาง ASPS อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไร และมูลค่าหุ้นเพิ่มเติม เพื่อรอความชัดเจนของมูลค่าเพิ่มนอกประมาณการ จากบริษัทร่วมทุน และการที่ JMT กำลังเจรจาเพื่อเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินเพิ่มเติม ส่วน CNS ระบุว่า ธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตสูง หนุนด้วยเงินทุน JMT และ SINGER ที่โดดเด่น และยังมี upside เพิ่มจาก JFIN Coin กับการ Synergy เพิ่มเติมร่วมกับกลุ่ม BTS และ GUNKUL จึงแนะนำ Let profit run สำหรับผู้ไม่มีหุ้นอาจหาจังหวะซื้อเก็งกำไรได้ช่วงที่หุ้นมี Momentum ดี เพราะราคาหุ้นในระยะสั้นๆ ปรับขึ้นมาใกล้เคียงราคาเป้าหมายที่ 53.25 บาทแล้ว

ด้าน KS พูดถึง SINGER ว่า หากการตั้งบริษัทร่วมทุนเกิดขึ้นจริง บริษัทฯ จะได้ประโยชน์ในการจำหน่ายสินค้าผ่านเครือข่าย และการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่ม upside ให้ราคาหุ้น แต่ต้องรอความชัดเจนก่อน จึงคงราคาเป้าหมายไว้ 56.25 บาท ตามเดิม  

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้