319 จำนวนผู้เข้าชม |
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้กำหนดงบลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2565 - 2569) วงเงินรวม 1.02 แสนล้านบาท สำหรับเดินหน้าโครงการต่างๆ แบ่งเป็นวงเงินสำหรับลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 45% ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 20% ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย 2% ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน รวมสำนักงานใหญ่ 8% ที่เหลือ 25% เป็นงบลงทุนสำหรับบริษัทลูก (PTT ถือหุ้น 100%) ทั้งเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศ และเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า
โดยโครงการที่จะมีการลงทุนผ่านบริษัทลูก ประกอบไปด้วย การขยายขีดความสามารถของสถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งที่ 2 ที่หนองแฟบ, โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3
ส่วนโครงการลงทุนขนาดใหญ๋ที่สำคัญ จะเน้นไปที่การก่อสร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 1 และโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 8 ซึ่งนำก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มาแยกเป็นผลิตภัณฑ์อีเทน และแอลพีจี (LPG) รวมถึงถังเก็บผลิตภัณฑ์อีเทน และสถานีรับจ่ายเพื่อเพิ่มความสามารถในการนำเข้าผลิตภัณฑ์อีเทน รวมทั้งโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นทางบางปะกง-โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ บนบกเส้นที่ 5
นอกจากนี้ PTT ยังจัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปีข้างหน้า อีก 2.38 แสนล้านบาท มุ่งเน้นธุรกิจพลังงานสะอาด 4 ด้าน
สำหรับการดำเนินงานเพื่อบรรเทาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากวิกฤตโควิด กลุ่ม PTT ยังคงเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการ "Restart Thailand" เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ เสริมทักษะและสร้างความมั่นคงทางอาชีพให้นักศึกษาจบใหม่ และผู้ว่างงานรวมกว่า 23,000 อัตรา โดยเปิดรับสมัครผ่าน www.pttbsa.com จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ หรือโครงการ "Refresh and Energize for The New Normal" เพื่อร่วมกระตุ้นการท่องเที่ยว โดย PTT จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนให้พนักงานได้ใช้วันลาพักร้อนท่องเที่ยวในประเทศ ช่วยเสริมสภาพคล่องและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค รวมถึงโครงการ "ลมหายใจเดียวกัน" เดินหน้าหน่วยคัดกรองโควิด โรงพยาบาลสนามครบวงจร และสายด่วน 1745 เพื่อเสริมความเข้มแข็งของสาธารณสุขไทย สนับสนุนนโยบายเปิดประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ทุกภาคส่วนผ่านพ้นวิกฤตโควิดไปด้วยกัน