265 จำนวนผู้เข้าชม |
การที่กลุ่ม SCBX กำหนดเป้าหมายสู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค ที่มีขีดความสามารถในการสร้าง และบริหารจัดการแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันกับแพลตฟอร์มระดับโลก ครอบคลุมไปถึงการสร้างขีดความสามารถของบุคลากรด้านเทคโนโลยี เพื่อ scale platform ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น กลุ่ม SCBX จึงตัดสินใจร่วมทุนกับพันธมิตรอย่าง ปับลิซีส เซเปียนท์ (Publicis Sapient) ที่เป็นผู้นำด้านการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่นระดับโลก ก่อตั้งบริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด (SCB Tech X) ขึ้นมา
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) เปิดเผยว่า ทั้ง 2 องค์กรจะร่วมกันพัฒนา และสร้าง SCB Tech X ให้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้ SCBX มีแพลตฟอร์มการให้บริการครอบคลุมทั้งบริการทางการเงิน และบริการอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกรรมการเงิน เช่น บริการส่งอาหารไปยังที่พัก (Food Delivery) บริการด้านสุขภาพ และการสำรองการเดินทางบนระบบออนไลน์
ด้านนายไนเจล วาซ ประธานกรรมการบริหาร ปับลิซีส เซเปียนท์ อธิบายเพิ่มเติมว่า SCB Tech X มุ่งหวังผลลัพธ์ในการสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ปฏิบัติการด้วยความรวดเร็ว ตามแบบฉบับของธุรกิจดิจิทัล เพื่อรองรับการบริหารจัดการด้านการเงินส่วนบุคคล และการทำตลาดอีคอมเมิร์ชทั่วโลก ครอบคลุมถึงการเป็นแม่แบบคิดค้นวิธีการใหม่ๆ ที่จะสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าของตนเองด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น SCB Tech X จะเป็นองค์กรที่ปฏิบัติการบนคลาวด์ที่ออกแบบให้มีความคล่องตัว สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการได้อย่างหลากหลาย ช่วยให้ธนาคารสามารถคิดค้นวิธีการสร้าง Engagement กับลูกค้าในรูปแบบใหม่ๆ ตลอดจนสามารถขยายโอกาสทางธุรกิจ นอกเหนือจากธุรกิจธนาคารได้อีกด้วย
สำหรับองค์กรใหม่นี้ จะมีนายตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน Technology ของธนาคารไทยพาณิชย์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB Tech X และได้นายโจนาธาน ชาร์ป ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ปับลิซีส เซเปียนท์ มาร่วมบริหารในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี
ซึ่งนายตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB Tech X อธิบายถึงบทบาทหน้าที่ของ SCB Tech X ว่า จะพัฒนาขีดความสามารถทางดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อต่อยอด และสร้างธุรกิจใหม่ให้กลุ่ม SCBX รวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจ ให้สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ของผู้บริโภค อีกทั้งยังสามารถแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกได้อย่างทัดเทียม บนโลกแห่งอนาคตที่มีดิจิทัลเป็นตัวนำ
จากผลการศึกษาล่าสุด มีการคาดการณ์ว่ายอดการใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล เฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือไม่น้อยกว่า 33 ล้านล้านบาท ภายในปี 2568 เฉพาะในประเทศไทย น่าจะมีจำนวนผู้ใช้งานสูงถึง 43.77 ล้านคน ขณะที่ segment ของการทำธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ บนแพลทฟอร์มดิจิทัล คาดการณ์ว่า จะมีอัตราการเติบโตของรายได้ปีหน้า อยู่ที่ 58.7% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า สถาบันการเงินมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัว ปรับโครงสร้าง โดยนำเอาเครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจ ให้สอดรับกับสภาวะทางธุรกิจที่พร้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา