SSP เชื่อมั่น ผลดำเนินงานปีนี้ All time High ก่อนเติบโตก้าวกระโดดในปีหน้า ตามแผนขยายการลงทุน

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า การที่บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 223 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งดีกว่าเป้าหมายที่เคยตั้งเอาไว้ที่ 200 MW ดังนั้น จึงมีความมั่นใจว่า ผลดำเนินงานปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ และน่าจะเห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีหน้า จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น  

"มีความเชื่อมั่นว่า แนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายปีนี้จะสดใสต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ซึ่งบริษัทฯ สามารถทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All time High) เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างในไตรมาส 3 บริษัทฯ ได้ปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยามากะ ในญี่ปุ่น กำลังการผลิต 30 MW และโรงไฟฟ้าชีวมวล UPT กำลังการผลิต 9.9 MW เต็มไตรมาส ขณะที่ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ได้ปัจจัยขับเคลื่อนเพิ่มจากการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ลีโอ-1 ในญี่ปุ่น กำลังการผลิต 20 MW เต็มไตรมาส และเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 MW" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP ให้ข้อมูล

และเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกประเภท ให้ได้เป้าหมายการมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเกิน 400 MW ภายในปี 2567 ผ่านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม เวียดนามในเฟส 2 ขนาดกำลังการผลิต 48 MW เพื่อต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานลม หรือการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ในอินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งมีกำลังการผลิตแห่งละ 17 MW ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนทำการศึกษาและเตรียมพัฒนาโครงการ ในช่วง 2 ปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนปีหน้าอีกหลายโครงการ มีทั้งที่อยู่ในช่วงศึกษา และกำลังเจรจา ซึ่งคาดว่า น่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ 

สำหรับการลงทุนใน บมจ.โนวา เอมไพร์ (NOVA) จำนวน 16.4 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.64 % ของหุ้นทั้งหมด ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 170 ล้านบาท ช่วงก่อนหน้านี้ คาดว่า จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เพราะ NOVA มีการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศ แบ่งเป็นการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 44.85 MW ในสัดส่วน 26.25% และลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา กำลังการผลิต 7.825 MW ในสัดส่วน 100% 

ที่สำคัญ การลงทุนครั้งนี้ ยังจะช่วยให้บริษัทฯ มีพันธมิตรสนับสนุนการต่อยอดในธุรกิจพลังงานทดแทน ผ่านการถือสิทธิในการเข้าร่วมลงทุนในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 25% สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ NOVA จะได้มาในอนาคต โดยเฉพาะโครงการในภูมิภาคอาเซียน 

ทั้งนี้ กลยุทธ์ในการขยายกำลังการผลิต เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำกำไรของ SSP ข้างต้น  ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาหุ้น โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 15.20 บาท อิงจาก IAA Concencus