578 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย (KS) และ บล.หยวนต้า ประเทศไทย (YUANTA) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บมจ.บริทาเนีย (BRI) เปิดเผยว่า พร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 252.65 ล้านหุ้น คิดเป็น 29.6% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ที่ราคาหุ้นละ 10.50 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดที่นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจในการทำ bookbuild ช่วงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก เป็นการกระจายหุ้นในโควต้าของผู้ ถือหุ้น บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ที่มีสิทธิจองซื้อ (Pre-Emptive Right) กำหนดวันจองซื้อช่วง 7-9 ธันวาคมนี้ ส่วนที่สอง เป็นโควต้าของนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบัน จะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคมเป็นลำดับถัดไป ซึ่งคาดว่า หุ้นจะเข้าซื้อขายวันแรก วันอังคารที่ 21 ธันวาคมที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ได้กำหนดแนวทางจองซื้อในส่วนโควต้าผู้ถือหุ้น ORI ที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BRI ไว้ 3 วิธี คือ
1. จองซื้อผ่านระบบ Electronic Rights Offering (E-RO) ทางเว็บไซต์ www.yuanta.co.th
2. ยื่นใบจองซื้อ ที่ YUANTA สำนักงานใหญ่ ซึ่งเป็นตัวแทนรับจองซื้อหุ้นในส่วน Pre-Emptive Rights
3. จองซื้อทางโทรศัพท์บันทึกเทป สำหรับผู้ที่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับ YUANTA เท่านั้น โดยสามารถจองซื้อเกินกว่าสิทธิ (ไม่กำหนดอัตราสูงสุดการจองซื้อเกินกว่าสิทธิ แต่จะได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้น ORI ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นที่จองซื้อตามสิทธิครบถ้วนแล้วเท่านั้น)
สำหรับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ จองซื้อในวันที่ 13-15 ธันวาคมนี้ ผ่านผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 4 ราย ได้แก่ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ประเทศไทย (CGS-CIMBS), บล.ทรีนีตี้ (TNITY), บมจ.หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) และ บมจ.หลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน ประเทศไทย (UOBKH) นอกเหนือจากจองผ่าน KS และ YUANTA
ขณะที่ผลดำเนินงานของ BRI ช่วงปี 2561-2563 มีรายได้รวม 515.47 ล้านบาท 1,561.01 ล้านบาท และ 2,342.09 ล้านบาท ตามลำดับ (คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี หรือ CAGR ที่ 113.16%) และมีกำไรสุทธิ 71.65 ล้านบาท 207.14 ล้านบาท และ 348.72 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้รวม 2,808.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.18% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 452.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.92% YoY เนื่องจากการเปิดโครงการใหม่ และโครงการในปัจจุบันได้รับการตอบรับที่ดี อีกทั้งสามารถบริหารจั ดการและควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ ในระดับ 31-32%
ทั้งนี้ BRI มีโครงการที่ปิดการขายแล้ว 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,028 ล้านบาท มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์ 13 โครงการ มูลค่ารวม 17,550 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 6 โครงการ ที่จะเปิดขายในช่วงไตรมาส 4 นี้ อีก 4,300 ล้านบาท รวมถึงมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด อีก 9 โครงการ รวมมูลค่า 10,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเปิดตัวปีหน้า อาทิ โครงการบริทาเนีย ราชพฤกษ์-นครอินทร์ มูลค่า 700 ล้านบาท, โครงการบริทาเนีย อุดร-ดุษฎี มูลค่า 650 ล้านบาท, โครงการบริทาเนีย ระยอง มูลค่า 1,100 ล้านบาท
ซึ่งการพัฒนาโครงการใหม่ๆ จะใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ส่วนหนึ่ง ส่วนเงินทุนที่เหลือจะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ