396 จำนวนผู้เข้าชม |
ธนาคารทิสโก้ ขยายระยะเวลาโครงการ “คืนรถจบหนี้” เฟส 2 ช่วยเหลือลูกค้าเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถยนต์ของทิสโก้ ในกลุ่มที่ผ่อนชำระไม่ไหว ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธันวาคมศกนี้ ย้ำยกหนี้ให้จริง ภายใต้เงื่อนไขเดิม ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีส่วนต่าง ไม่ฟ้องร้อง ปิดบัญชีจบหนี้อย่างยั่งยืน
นายเดชพินันท์ สุทัศนทรวง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส - ปฏิบัติการสินเชื่อรายย่อย บมจ.ธนาคารทิสโก้ (TISCO) เปิดเผยว่า เพื่อความต่อเนื่องในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเช่าซื้อ และลูกค้าจำนำทะเบียนรถยนต์ของทิสโก้ ที่ยังคงได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ธนาคารจึงตัดสินใจขยายระยะเวลาโครงการ "คืนรถจบหนี้" ระยะที่ 2 โดยเปิดให้ลูกค้ากลุ่มที่ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดต่อไปได้ มีโอกาสในการนำรถมาคืนได้อีกครั้ง โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.tisco.co.th หรือติดต่อที่สาขาธนาคารทิสโก้ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธันวาคมศกนี้
หลังจากโครงการ "คืนรถจบหนี้" ระยะแรกสิ้นสุดลงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยังคงมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยติดต่อสอบถาม และขอเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ตลอด แม้ส่วนใหญ่จะพยายามประคับประคองตัวเองและเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือจากธนาคารแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ที่ยืดเยื้อยังคงซ้ำเติมฐานะการเงินของลูกค้าให้เปราะบางลง ด้วยเหตุนี้ ธนาคารจึงตัดสินใจเปิดโครงการคืนรถจบหนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่ผลโดยรวมในระยะแรกมีผู้สนใจลงทะเบียนเข้ามากว่า 4,000 ราย ได้รับการอนุมัติช่วยเหลือและปิดบัญชีไปเรียบร้อยแล้วจำนวนไม่น้อย และยังอยู่ระหว่างดำเนินการอีกจำนวนหนึ่ง
สำหรับเงื่อนไขโครงการยังคงเดิม นั่นคือ ต้องเป็นลูกค้าเช่าซื้อ หรือจำนำทะเบียนรถยนต์ของทิสโก้ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของโควิด 19 ผ่อนชำระค่างวดตามสัญญามาแล้วไม่น้อยกว่า 12 งวด และรถยนต์จะต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อยใช้งานได้ ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ ธนาคารจะ "ยกหนี้ให้จริง" โดยไม่ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม ไม่คิดค่าธรรมเนียม พร้อมระบุสถานะเป็นลูกค้า "ปิดบัญชี" ถือเป็นการปิดหนี้โดยสมบูรณ์ โดยไม่มีภาระหนี้ผูกพันในอนาคต และหากขายรถได้มูลค่าสูงกว่าภาระหนี้คงค้าง ธนาคารก็จะคืนเงินส่วนที่เกินนี้ให้แก่ลูกค้าด้วย
"ปัญหาที่เห็นชัดเจนตอนนี้คือ รายได้ของลูกค้าหายไป การช่วยเหลือลูกค้าจึงจำเป็นต้องสอดคล้อง ตรงจุด รวดเร็วและยั่งยืน แม้สถานการณ์โควิด 19 จะเริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงแล้ว แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อใด สิ่งสำคัญคือลูกค้าจะต้องประเมินสถานะทางการเงินของตัวเอง หากคิดว่าไม่สามารถผ่อนชำระต่อไปได้แล้วให้รีบติดต่ อธนาคารและลงทะเบียนเข้าร่ วมโครงการเพื่อประโยชน์ของตัวลูกค้าเอง เพราะธนาคารตั้งใจช่วยเหลือลูกค้าจริงๆ และอยากให้ความช่วยเหลือนี้เป็นไปแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อให้ลูกค้าฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน" นายเดชพินันท์ กล่าว
ทั้งนี้ั ลูกค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.tisco.co.th รวมถึงติดตามข่าวสารผ่านช่องทาง Line @TISCO / Facebook Fanpage TISCO ตลอดจนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-633-6000 หรือ 02-080- 6000