PRM ปันผลเพิ่ม 0.24 บาท XD 6 พ.ค. มั่นใจผลงาน 3 ปีนี้ New High หลังไตรมาสแรกปี 2568 แจ่ม

 

บมจ. พริมา มารีน (PRM) เปิดเผยผลดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 2,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2% จากปีก่อน ตามรายได้จากการดำเนินงานที่เติบโต 9.0% มาอยู่ที่ 8,790.6 ล้านบาท สนับสนุนจากธุรกิจเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล (OSV) ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 65.2% รวมถึงธุรกิจเรือกักเก็บและผสมน้ำมันกลางทะเล (FSU) ที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 13.2% ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมี (PCT) ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 7.6% และการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อธุรกิจ VC Shipping ที่ทำให้ธุรกิจตัวแทนสายเดินเรือและออกของ (SAS) เติบโตถึง 28.7% ส่งผลให้บริษัทฯ พร้อมจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมให้กับผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.24บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 6 พฤษภาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม ซึ่งหากคิดรวมเงินปันผลระหว่างกาลที่ จ่ายในเดือนตุลาคมปีก่อน ทำให้บริษัทฯ จ่ายปันผลทั้งปีในอัตรา 0.48 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนระดับ 6-7%

พร้อมกันนี้ นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี PRM เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจปี 2568 ว่า มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยคาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้นในระดับ 8-10% แตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท ขานรับความสำเร็จจากการขยายตลาดต่างประเทศ และการเพิ่มกองเรือให้เพียงพอกับความต้องการของทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ อย่างบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (ADNOC) ที่มีการทำสัญญาระยะยาว 5 ปี มีผลตั้งแต่ต้นปี ประเดิมด้วยการให้บริการเรือ Hybrid Crew Boat 2 ลำ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มให้บริการเรือขนส่งและกักเก็บน้ำมันดิบ (FSO) สำหรับแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ในเดือนมีนาคมนี้ ก่อนขยายการให้บริการเพิ่มเติมในระยะต่อไป

ประการสำคัญ เรือที่เข้าซ่อมบำรุงในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีก่อน จะพร้อมทยอยกลับมาให้บริการได้ตั้งแต่ไตรมาสแรก เช่นเดียวกับการให้บริการเรือกักเก็บและผสมน้ำมันกลางทะเล (FSU) ลำใหม่ ขนาด 306,352 DWT และการนำเรือ Aframax ไปดัดแปลงเป็นเรือสนับสนุนการผลิตปิโตรเลียมกลางทะเลให้กับ บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) พร้อมเริ่มให้บริการช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่งผลให้แนวโน้มรายได้ไตรมาสแรกน่าจะเติบโตดีขึ้น ไม่ว่าจะเปรียบเทียบรายปี (YoY) หรือรายไตรมาส (QoQ)

นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ จะทยอยรับมอบเรือ Crew Boat ต่อใหม่ 2 ลำ ไตรมาสละลำ เพื่อสนับสนุนธุรกิจ OSV ซึ่งมีสัญญาในรูปแบบ Time Charter โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงเอง ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและแน่นอนให้กับบริษัทฯ เพิ่มเข้ามา ส่งผลให้สัดส่วนรายได้มีสมดุลมากขึ้นตามไปด้วย สนับสนุนให้ผลดำเนินงาน 3 ปีนี้ (2568-70) สร้างสถิติสูงสุดใหม่ (New High) อย่างต่อเนื่อง ตามแผนที่วางไว้

และเพื่อช่วยประคับประคองราคาหุ้นไม่ให้ปรับฐานเกินกว่าปัจจัยพื้นฐาน ในภาวะที่่ตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ถือหุ้นมีความมั่นใจในการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.00% ของหุ้นทั้งหมด เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม จนถึงวันที่ 3 กันยายน คิดเป็นวงเงินรวมไม่เกิน 600 ล้านบาท อีกด้วย