1765 จำนวนผู้เข้าชม |
นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนางสาวชนิดา พัธโนทัย (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ. เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป (SAFE) เดินหน้าให้ข้อมูลแก่นักลงทุน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้จัดการกองทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ข้อมูลภาพรวมธุรกิจในรอบปี 2567 ที่ผ่านพ้นไป และแผนสร้างความสำเร็จในปี 2568 สรุปสาระสำคัญได้ว่า พร้อมปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อผลักดันผลดำเนินงานปีนี้ให้ดีขึ้นจากปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับกลยุทธ์การตลาดทั้งในและต่างประเทศ มาเน้นช่องทางโซเซียลต่างๆ มากขึ้น พร้อมกับหันมาเน้นรุกตลาดพรีเมียม และการให้บริการฝากไข่ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ผู้หญิงยุคใหม่ให้ความสำคัญมากขึ้น อย่างเต็มตัว เนื่องจากภาพรวมธุรกิจยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งยังจะได้แรงหนุนเพิ่มหากกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการสมรสเท่าเทียม ทั้งกฎหมายการอุ้มบุญ กฎหมายการย้ายตัวอ่อน มีผลบังคับใช้ ช่วยสร้างฐานลูกค้าใหม่ เพิ่มความคึกคักให้กับคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังน่าจะรับรู้รายได้เพิ่มเติม จากดีลลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ซึ่งการเจรจามีความคืบหน้ามากขึ้น คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ในปีนี้ พร้อมรับรู้รายได้เข้ามาทันที หนุนให้รายได้ทั้งปีเติบโต 15-20 %
สำหรับผลดำเนินงานปี 2567 SAFE มีกำไรสุทธิ 167.09 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 17.21% สาเหตุจากการที่คนไข้เร่งเข้ารับการรักษาในไตรมาสแรกเป็นจำนวนมาก เพื่อให้พร้อมมีทายาทภายในปีมังกร ก่อนชะลอตัวเข้าสู่ภาวะปกติ ตลอดช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือ อีกทั้งลูกค้าคนไทยมีความไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจทำให้ชะลอแผนมีบุตรออกไป ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก และรายได้จากการให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อนและทารกในครรภ์ ลดลง 3.7% จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานลดลงจากปีก่อนหน้า 2.2% มาอยู่ที่ 830.13 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการทำการตลาด และจัดกิจกรรมทางการตลาดหลากหลายช่องทางทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ พร้อมจ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานปี 2567 ให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.62 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 8 พฤษภาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม