1537 จำนวนผู้เข้าชม |
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น (SINO) เปิดเผยว่า เพื่อผลักดันการเติบโตทางธุรกิจในปี 2568 ให้ดีต่อเนื่องจากที่ทำได้เกินเป้าหมายในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายฐานรายได้จากธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) ทั้งจากตลาดในประเทศ และการขยายสาขาผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน โดยอาศัยจุดแข็งในการมีเครือข่าย การมีตู้คอนเทนเนอร์ของตัวเอง ยกระดับความเป็นผู้นำการขนส่งทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐฯ อันดับ 2 ของโลก และการให้บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด สร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประเดิมศักราชใหม่ บริษัทฯ สามารถปิดดีลให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลด้วยสัญญาล่วงหน้า เส้นทางไทย-จีน-ยุโรป ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ จำนวน 800 ตู้คอนเทนเนอร์ คาดว่าจะสร้างรายได้จากดีลนี้ประมาณ 200 ล้านบาท ต่อเนื่องจากที่ได้รับงานขนส่งสินค้าทางทะเล เส้นทางไทย-สหรัฐฯ ระยะเวลา 6 เดือนเหมือนกัน จากลูกค้ารายหนึ่งก่อนหน้านี้
ส่วนการจับมือกับพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเริ่มต้นแล้วในกัมพูชา และมาเลเซีย เริ่มเห็นผลสำเร็จที่ดีขึ้นเป็นลำดับ และน่าจะเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้น จากการเปิดสาขาในเวียดนามภายในไตรมาสแรกปีนี้ ต่อด้วยอินโดนีเซียกลางปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มปริมาณตู้สินค้าขึ้นอีก 1,000-2,000 ตัน ตามโรดแมปที่วางไว้
ขณะเดียวกัน เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจ Sea Freight มากจนเกินไป จนอาจทำให้ความสามารถทำกำไรถูกจำกัดจากค่าระวางของสายการเดินเรือ บริษัทฯ เตรียมหันมารุกให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) และการให้บริการคลังสินค้ามากขึ้น เพื่อขยายฐานรายได้ และเพิ่มศักยภาพการทำกำไร สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ระดับโลกอย่างที่หวังไว้