1257 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก (GBS) ประสบความสำเร็จในการให้บริการการลงทุนกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) โดยทีมผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ นำโดยนายฐิติพันธ์ ไผ่ศิริกุล และ 2 ผู้จัดการกองทุน ประกอบด้วยนายอิศรา ปวรทิตา และนายชัยรัตน์ คงสุนทร เพิ่มเป็น 200 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นความสำเร็จจากนโยบายการบริหารกองทุนที่โดดเด่น ทั้งการใช้ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลักและปัจจัยทางเทคนิคช่วยประกอบการตัดสินใจ มีระดับการตัดขาดทุนที่ชัดเจนสอคล้องกับภาวะตลาดที่มีความผันผวนค่อนข้างมาก อีกทั้งการใช้บริการเปิดให้สามารถโอนหุ้นที่ติดในพอร์ตลงทุน นับรวมเป็นเงินลงทุนเริ่มต้นขั้นต่ำที่ 3 ล้านบาทได้ และไม่มี Lock up penalty ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนและไถ่ถอนได้ตลอดเวลา
ล่าสุด นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายการเติบโตด้าน Private Fund เพิ่มขึ้นเท่าตัว เป็น 500 ล้านบาท เพราะเล็งเห็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เปิดกว้าง โดยเฉพาะการลงทุนหุ้นไทย ที่มีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ทั้งจากดอกเบี้ยเป็นขาลง แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การที่ตลาดซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และหุ้นพื้นฐานดีหลายตัวมีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่สนใจลงทุน แต่ไม่มีเวลาติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
ซึ่งหากบริการ Private Fund เติบโตตามแผน จะทำให้สัดส่วนรายได้จาก Private Fund เติบโตเพิ่มจากที่ทำได้ 1.05% ในปีที่ผ่านมา ช่วยหนุนให้ผลดำเนินงานของบริษัทฯ ปี 2568 นี้ มีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้น 20% ตามแผนที่วางไว้
ปัจจุบัน GBS มีสัดส่วนรายได้จากค่านายหน้าในการซื้อขายหลักทรัพย์กว่า 32% อีกเกือบ 67% มาจากรายได้ที่เกิดจากบริการต่างๆ ทั้งธุรกรรมซื้อขายตราสารหนี้ สัญญาซื้อคืน (Sale buy back)การจำหน่ายหุ้นกู้ การเป็นตัวแทนซื้อขายกองทุนรวม และให้บริการ Block trade