1584 จำนวนผู้เข้าชม |
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2568 ว่า ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปี 2567 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป เนื่องจากภาพรวมตลาดยังมีศักยภาพทั้งงานจากโครงการพลังงานทดแทนรอบใหม่ และงบลงทุนภาครัฐตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 15% ตลอด 3- 5 ปีนี้ โดยการเติบโตยังคงมาจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และเทรดดิ้งอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า
เบื้องต้น บริษัทฯ ตั้งเป้างานในมือจากธุรกิจ EPC ไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าวางเป้ากำลังการผลิตเติบโต 35% ใน 2 ปีข้างหน้า หรือเพิ่มปีละประมาณ 100-150 เมกะวัตต์ (MW) จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ากว่า 1,500 MW ซึ่งเมื่อคิดรวมการประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบ 2 กำลังการผลิตรวม 2,145 MW ซึ่งบริษัทย่อย กันกุล วิน ดีเวลลอปเม้นท์ และกันกุล วัน เอ็นเนอร์ยี 9 ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ดำเนินโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 จำนวน 7 โครงการ กำลังการผลิตรวม 319 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลม 284 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 35 MW ทยอยเดินเครื่องจำหน่ายไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2570-2573 จะทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มเป็น 1,800 MW ใกล้เคียงเป้าหมายการมีเมกะวัตต์สะสม 2,000 MW ภายในปี 2569
ขณะที่โครงการพลังงานหมุนเวียนจำนวน 832 MW ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ไปก่อนหน้านี้ จะทยอยเดินเครื่องจำหน่ายไฟฟ้าได้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 38,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังมีเงินลงทุนเพียงพอ และสามารถกู้ยืมสถาบันการเงินได้เพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยังอยู่ในระดับต่ำ เพื่อผลักดันการเติบโตในอนาคตให้เป็นไปตามแผน
ประการสำคัญ บริษัทในกลุ่ม GUNKUL ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการขายสินค้าในระบบอุปกรณ์ไฟฟ้าและรับเหมาก่อสร้าง ยังจะได้รับประโยชน์ตามไปด้วย โดยเฉพาะงาน EPC ที่จะได้รับโอกาสทำสายส่งไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นด้วย รวมถึงการที่ภาคธุรกิจเอกชนหันมาใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่บริษัทฯ จะได้รับโครงการ Private PPA เพิ่มขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งการที่ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และต้องการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น ยังจะเปิดโอกาสให้บริษัทฯ พร้อมเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานภาครัฐเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน