SINO โชว์ผลงานไตรมาส 3 ทะลุปีก่อนแล้ว เตรียมลุยธุรกิจนอกเหนือขนส่งทางทะเลเพิ่มมูลค่าธุรกิจต่อเนื่อง

1501 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SINO โชว์ผลงานไตรมาส 3 ทะลุปีก่อนแล้ว เตรียมลุยธุรกิจนอกเหนือขนส่งทางทะเลเพิ่มมูลค่าธุรกิจต่อเนื่อง



บมจ. ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น (SINO) รายงานผลดำเนินงวดไตรมาส 3 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 37 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 429% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และ 185% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ผลจากรายได้จากการให้บริการที่ขยายตัว 429% YoY และ 87% QoQ มาอยู่ที่ 1,375 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในรอบปี ตามที่ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ สาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล (Sea Freight) ซึ่งเป็นช่องทางสร้างรายได้หลัก ในสัดส่วนกว่า 90% ที่ได้ปัจจัยหนุนทั้งจากการเพิ่มขึ้นของค่าระวางเรือ อันเนื่องจากสถานการณ์ทะเลแดง และปริมาณการขนส่งสินค้าเส้นทางไทย-อเมริกา ที่เพิ่มสูงขึ้น ขานรับการเร่งส่งออกสินค้าในไตรมาส 3 เพื่อให้ทันวางจำหน่ายในช่วงเทศกาลปลายปี ทำให้ปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลเพิ่มสูงกว่า 11,000 ตู้ อีกทั้งยังประสบผลสำเร็จจากการนำเสนอบริการโดยตรงเชิงรุกให้กับผู้นำเข้าต่างประเทศได้มากขึ้น ส่งผลให้ก้าวเป็นผู้นำการขนส่งสินค้าทางทะเล เส้นทางไทย-อเมริกา อันดับ 2 ของโลก

การเติบโตของผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 อย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ สูงกว่าที่ทำได้ในปีก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งด้านรายได้และกำไร โดยกำไรสุทธิเพิ่มจากที่ทำได้ 53 ล้านบาท ในปีก่อน มาอยู่ที่ 55 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นถึง 60.7% จากที่ทำได้ 4,800 ล้านบาท ในสิ้นปีก่อน มาอยู่ที่ 2,884 ล้านบาท  

พร้อมกันนี้ นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SINO ออกมาฉายภาพธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ว่า มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หนุนจากความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับสูง จากการเร่งขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ ให้ทันก่อนถึงช่วงวันหยุดปลายเดือนธันวาคมนี้ ทั้งจากการเร่งส่งออกจากจีน ซึ่งถูกกดดันจากนโยบายปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเกิดในเร็วๆ นี้ พร้อมกับหนุนให้ปริมาณการส่งออกสินค้าจากฐานการผลิตในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน เช่น ไทย เวียดนาม เพื่อทดแทนการนำเข้าโดยตรงจากจีน ขยายตัวตามไปด้วย กระตุ้นให้ค่าระวางเรือมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นอีก 10-20% ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลทั้งปีน่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 53,000 ตู้ ตามแผนที่วางไว้

  



 

และเพื่อเพิ่มศักยภาพการทำธุรกิจในระยะต่อไป บริษัทฯ พร้อมรุกขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการขนส่งสินค้าทางเรือจากท่าเรือในกัมพูชามาไทย เมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องด้วยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ในมาเลเซีย ช่วงไตรมาส 2 ปีก่อน ล่าสุด บริษัทฯ เตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ มากเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยเฉพาะสินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์  ยางล้อ และอาหาร ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น ขยายขอบเขตการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้ครบวงจรมากขึ้น โดยกระบวนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ที่ SINO ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 60% น่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกปีหน้า ช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าช่วงแรก เดือนละประมาณ 1,000 ตู้

เช่นเดียวกับการขยายคลังสินค้าให้เช่าอีก 20,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ที่จะพร้อมเปิดให้บริการภายในเดือนมกราคม เพื่อให้ตอบสนองความต้องการจัดเก็บสินค้าที่เพิ่มขึ้น หลังจากผู้ประกอบการจีนย้ายฐานการผลิตมาไทยค่อนข้างมาก ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่คลังสินค้า 2 แห่ง ขนาดพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร เกือบเต็ม 100% และน่าจะเห็นความชัดเจนในการขยายการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศเพื่อเพิ่มศักยภาพให้บริการอย่างครบวงจร ช่วยต่อยอดธุรกิจบริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์อีกทางหนึ่ง และขับเคลื่อนให้รายได้ในปีหน้าเติบโตดีขึ้นจากปีนี้

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้