คาด SPA พลิกมีกำไรสะสมไตรมาส 4 ปีนี้ หลังผลงาน 9 เดือน สดใสเกินคาด

บมจ. สยามเวลเนสกรุ๊ป (SPA) ผู้นำธุรกิจสปาและเวลเนสครบวงจรที่สุดของไทย ประกาศผลดำเนินงวดไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 81.70 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุจากบริษัทฯ เริ่มกลับมาเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ หลังจากช่วงก่อนหน้านี้ได้เครดิตภาษีจากผลขาดทุนสะสมช่วงโควิด แต่หากตัดเรื่องภาษีนิติบุคคลออกไปเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น กำไรสุทธิจะเติบโต 24.40% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 101.33 ล้านบาท หนุนจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 13.65% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 442.14 ล้านบาท นำโดยธุรกิจสปา ที่มีสัดส่วนรายได้สูงถึง 88% ของรายได้ทั้งหมด ตามมาด้วยธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร กับจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและอื่นๆ

พร้อมกับหนุนให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือน เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งด้านรายได้และกำไร โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13.13% มาเป็น 217.30 ล้านบาท ตามรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 14.84% มาอยู่ที่ 1,232.71 ล้านบาท หลักๆ มาจากการให้บริการธุรกิจสปา ทั้งจากสาขาเดิมและสาขาที่เปิดใหม่ในไตรมาส 3 ในรูปแบบสาขาของตนเอง (Organic Stores) และรับบริหารสปาในโรงแรม (Spa Operating in Hotel) ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และกระบี่ รวม 5 สาขา ตอบรับเทรนด์การเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง หรือนักท่องเที่ยวกลุ่ม F.I.T. ได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯ สามารถบริหารการจัดการค่าใช้จ่ายและควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับแนวโน้มธุรกิจไตรมาสสุดท้ายปีนี้ นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPA ยืนยันว่า น่าจะเห็นการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง รับอานิสงค์จากการเข้าสู่ High Season ของธุรกิจ การรุกทำตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เสริมด้วยการเปิดสาขาเพิ่มอีก 2 สาขา ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ผลักดันให้รายได้ทั้งปีเติบโตแตะ 1,700 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้

เป้าหมายข้างต้นได้รับการขานรับจากนักวิเคราะห์ค่ายหยวนต้า (YUANTA) และทิสโก้ (TSC) ว่า เป็นไปได้สูง หนุนจากผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ที่ออกมาดีกว่าคาด และแนวโน้มไตรมาสสุดท้ายที่จะเติบโตเด่น ทำให้ SPA น่าจะล้างขาดทุนสะสมได้หมดในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ พร้อมกลับมามีกำไรสะสมอีกครั้ง เพิ่มโอกาสจ่ายปันผลเป็นเงินสดตามมาในเร็วๆ นี้ ประกอบกับราคาหุ้นปัจจุบัน ยังมี upside จากมูลค่าเหมาะสมเกินกว่า 20% จึงแนะนำซื้อ

ปัจจุบัน SPA ทำธุรกิจ 3 ประเภท นำโดยธุรกิจนวดและสปาเพื่อสุขภาพรวม 77 สาขา แบ่งเป็น ระรินจินดา เวลเนส สปา สปาระดับ 5 ดาว จำนวน 2 สาขา Let’s Relax สปาระดับ 4 ดาว จำนวน 59 สาขา (57 สาขาในประเทศ และ 2 สาขาในต่างประเทศ) Baan Suan Massage ร้านนวดระดับ 3 ดาว จำนวน 8 สาขา Stretch me Clinic จำนวน 4 สาขา และ Dr. Spiller Pure Skin Care Solutions จำนวน 2 สาขา ธุรกิจที่สอง ธุรกิจรีสอร์ตและร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ จ. เชียงใหม่ ภายใต้แบรนด์ ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ท, ระริน วิลล่าส์, ร้านอาหารเดควัน และ โอบ คาเฟ่ แอนด์ มีล ธุรกิจที่สาม ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สปา ครอบคลุมการนำเข้าผลิตภัณฑ์สปาและความงาม ภายใต้แบรนด์ Let’s Relax Lifestyle (LRL) และโรงเรียนสอนนวดแผนไทยและสปา สยามเวลเนส