TPCH เตรียมปันผลหุ้นละ 0.128 บาท ขึ้น XD 19 พ.ย. นี้

25 จำนวนผู้เข้าชม  | 

TPCH เตรียมปันผลหุ้นละ 0.128 บาท ขึ้น XD 19 พ.ย. นี้


บมจ. ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) ธุรกิจโฮลดิ้ง ที่เน้นลงทุนด้านผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 67.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน  (YoY) แต่ลดลง 21.5% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) สาเหตุจากกลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวลสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น หนุนให้สามารถจําหน่ายไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ถูกบั่นทอนจากการหยุดเดินเครื่องประจําปี และการมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมกลุ่มโรงไฟฟ้าขยะ ฉุดให้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าลดลง กระนั้น เมื่อคิดรวมผลดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี บริษัทฯ กลับทำกำไรสุทธิได้เพิ่มขึ้น 49.8% มาอยู่ที่ 254.15 ล้านบาท ทั้งที่รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าลดลง 19.8% YoY มาอยู่ที่ 1,787.90 ล้านบาท สาเหตุจากมีการจําหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน

โอกาสนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.128 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 19 พฤศจิกายนนี้ ก่อนจ่ายปันผลในวันที่ 4 ธันวาคม

พร้อมกันนี้ นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร TPCH ชี้แจงถึงความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ด้วยว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 โครงการในประเทศ ภายใต้บริษัทสยามพาวเวอร์ (SP) ที่หนองสาหร่าย (SPNS) และนากลาง (SPNK) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งแห่งละ 9.9 เมกะวัตต์ (MW) พร้อมติดตั้งเครื่องจักรภายในไตรมาสแรกปีหน้า และมีแผนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เพิ่มอีก 4 โครงการ ได้แก่ SP4-SP7 ตามมา

สำหรับการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนในต่างประเทศ การพัฒนาโครงการในกัมพูชา ซึ่งตั้งเป้าจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณ 180-200 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ประมาณ 50-100 MW ยังอยู่ในระหว่างการขอใบอนุญาต ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ใน สปป. ลาว กำลังการผลิต 100 MW ที่เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท แม่โขง พาวเวอร์ (MKP) ในสัดส่วน 40% มูลค่า 12.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมเริ่มก่อสร้างในไตรมาสแรกปีหน้าเช่นกัน เพื่อให้พร้อมจำหน่ายไฟฟ้า ใน สปป. ลาว และส่งไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปจำหน่ายในเวียดนาม ให้ได้ภายในปี 2569 ซึ่ง TPCH ตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็น 500 MW เทียบกับกำลังการผลิตปัจจุบันที่มี 110 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 80.7 MW และโรงไฟฟ้าขยะ 29.3 MW




Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้