5292 จำนวนผู้เข้าชม |
การเข้าซื้อขายวันแรกของ บมจ. เมดีซ กรุ๊ป (MEDEZE) สร้างผลตอบแทนอย่างโดดเด่นให้กับนักลงทุนที่ได้หุ้นจอง และขายทำกำไรออกไปเร็ว เพราะหลังจากเปิดตลาดที่ 13.30 บาท สูงกว่าราคาจองที่ 9 บาท ถึง 4.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทนกว่า 47.78% เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น มีแรงซื้อหนุนให้ราคาหุ้นค่อยๆ ปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 13.80 บาท หลังจากนั้น เริ่มเห็นแรงขายทำกำไรกระจายตัวออกมา กดให้ราคาค่อยๆ ไหลลงมาตามลำดับ แต่ก็ไม่หลุด 11.50 บาท และปิดภาคเช้าที่ 12 บาท เหนือจอง 33.33% ก่อนจะเริ่มย่อตัวลงมาในการซื้อขายภาคบ่าย เมื่อแรงซื้อมีเบาบางกว่าแรงขาย ส่งผลให้ราคาทรุดตัวลงมาเป็นลำดับ แต่ก็ไม่หลุด 10.60 บาท ก่อนจะมีแรงซื้อปลายตลาดดันราคาปิดขึ้นมาที่ 11.20 บาท เหนือจอง 2.20 บาท ให้ผลตอบแทน 24.44% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเกือบ 4,167 ล้านบาท และสามารถยืนระยะได้ในกรอบ 11-12 บาท ตลอดทั้งสัปดาห์ เมื่อมูลค่าการซื้อขายบางเบาลงไป
กระแสตอบรับที่ดี ทำให้นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า ประเทศไทย (YUANTA) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น MEDEZE เชื่อมั่นว่า นักลงทุนเล็งเห็นศักยภาพการเป็นผู้นำธุรกิจธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Banking) ของไทย ซึ่งมีจุดแข็งเรื่องการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐานโลก ทั้งระบบแช่แข็งในถังไนโตรเจนเหลว 38 ถัง การใช้เครื่องคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตอัตโนมัติ (AutoXpress) และเครื่องเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดแบบมีเซนไคมอลชนิดอัตโนมัติ (Quantum) รวมถีงมีนักวิทยาศาสตร์ บุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) จำนวนมาก พร้อมด้วยห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อระดับคลีนรูม การันตีประสิทธิภาพในการนำเอา Stem Cells มาใช้รักษาโรคที่เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ที่เป็นเครือข่ายแพทย์และโรงพยาบาลในประเทศ และตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ธุรกิจมีการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนยกระดับธุรกิจเดิมที่มีความเชี่ยวชาญ และรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการให้สามารถตอบโจทย์กระแสใส่ใจสุขภาพ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่เป็นเมกะเทรนด์ และมีการเติบโตทุกปี เพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ด้านนายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEDEZE เปิดเผยว่า พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างโดดเด่น ด้วยการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนระบบการจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ (Robotic Cell Culture System) ซึ่งเป็นนวัตกรรมขั้นสูงและล้ำสมัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เพิ่มความปลอดภัยในกระบวนจัดเก็บให้สูงยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงจากตัวแปรที่มาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ และความผิดพลาดของคน ยกระดับความน่าเชื่อถือได้ทัดเทียมกับผู้ประกอบการชั้นนำทั่วโลก ซึ่งจะทำให้มีขีดความสามารถในการใช้รักษาโรคที่เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ที่ สูงขึ้น สร้างการยอมรับจากลูกค้าทั่วภูมิภาคเอเชีย รวมถึงการลงทุนธุรกิจใหม่ ด้วยการพัฒนานวัตกรรมเซลล์จากรากผม (Hair Follicle Cell Bank) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผม และหนังศีรษะ ที่มีแนวโน้มจะพบเจอมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงวัย ควบคู่ไปกับการขยายตลาดเชิงรุกมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนรายได้ 3 ปีข้างหน้า (ปี 2568-70) เติบโตเฉลี่ยปีหนึ่งๆ ไม่ต่ำกว่า 25% หลังจากเติบโตในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20%