LTMH ผู้ก่อตั้งลงทุนแมน และ Blockdit พร้อมระดมทุนในตลาด mai  รุกสู่ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน และหุ้นกู้

5011 จำนวนผู้เข้าชม  | 

LTMH ผู้ก่อตั้งลงทุนแมน และ Blockdit พร้อมระดมทุนในตลาด mai  รุกสู่ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน และหุ้นกู้



นายธณัฐ เตชะเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอลทีเอ็มเอช (LTMH)  หนึ่งในผู้นำสื่อออนไลน์ ด้านการลงทุนและการตลาด ที่มีฐานผู้ติดตามรวมกว่า 8 ล้านคน จาก 6 เพจ ได้แก่ ลงทุนแมน, ลงทุนเกิร์ล, BrandCase, MarketThink, Mao-Investor และ MONEY LAB รวมถีงแพลตฟอร์ม Blockdit เปิดเผยว่า ทางที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาขยายสู่ธุรกิจใหม่ Wealth Tech ด้วยการเป็นบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน และหุ้นกู้ โดยกำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ส่วนที่เหลือนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ที่มีการทำธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร การจัดอีเว้นท์ การจำหน่ายหนังสือที่เกี่ยวข้องการบริหารเงิน และการตลาด รวมถึงการร่วมลงทุนใน บลจ. ทาลิส (TALISAM) ในสัดส่วน 25% นอกเหนือจากธุรกิจสื่อออนไลน์ ช่วยเติมเต็มระบบนิเวศทางธุรกิจให้ครบวงจร เพิ่มศักยภาพการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ทุกคนมีความรู้ในการสร้างความมั่งคั่ง และสร้างเครื่องมือที่ช่วยยกระดับฐานะการเงินทุกคน

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการจัดแบ่งโครงสร้างรายได้ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มออฟไลน์ ประกอบด้วยรายได้จากการจัดอีเว้นท์ และการจำหน่ายหนังสือที่เกี่ยวข้องการบริหารเงิน และการตลาด กับกลุ่มออนไลน์ ที่มีรายได้จากสื่อออนไลน์ และการให้บริการที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งการให้คำปรึกษา วางแผนตลาด การวางกลยุทธ์ในการผลิตคอนเทนต์ และการซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์ ให้ตอบความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยสัดส่วนรายได้กว่า 90% มาจากกลุ่มธุรกิจออนไลน์

สำหรับผลดำเนินงานช่วง 3 ปีล่าสุด (ปี 2564-66) บริษัทฯ มีการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้รวมเพิ่มจาก 118.06 ล้านบาท เป็น 173.90 ล้านบาท และ 225.77 ล้านบาท ตามลำดับ หนุนให้กำไรสุทธิเร่งตัวจาก 21.68 ล้านบาท เป็น 31.18 ล้านบาท และ 37.58 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิระดับ 16-17%

ขณะที่ผลดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้ รายได้และกำไรกลับลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยกำไรสุทธิลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 66.8% มาอยู่ที่ 3.59 ล้านบาท ตามรายได้รวมที่ชะลอตัวเล็กน้อย 1.8% มาอยู่ที่ 93.76 ล้านบาท จากภาวะตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวย กดดันให้รายได้จากธุรกิจออนไลน์ชะลอตัวตามไป อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวที่ข้องกับการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai และและค่าที่ปรึกษาในการทำสัญญาต่างๆ ของบริษัทฯเพิ่มเติมเข้ามา

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้