InnovestX คาดหุ้นไทยปลายปี 2567 กลับมายืน 1,500 จุด แต่ผันผวนระหว่างทาง จากการเมืองสหรัฐฯ

4978 จำนวนผู้เข้าชม  | 

InnovestX คาดหุ้นไทยปลายปี 2567 กลับมายืน 1,500 จุด แต่ผันผวนระหว่างทาง จากการเมืองสหรัฐฯ


สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) ประเมินภาพการลงทุนไตรมาส 4 ปี 2567 ว่า เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากยุคที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตดีเกินคาด อัตราดอกเบี้ยทรงตัวระดับสูง เข้าสู่ยุคที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มกลับมาชะลอตัวรอบใหม่ อัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลงถึงปี 2568 อีกทั้งแรงกดดันเงินเฟ้ออันเนื่องมาจากราคาพลังงาน มีแนวโน้มชะลอตัวลง จากตลาดน้ำมันที่กำลังพลิกเข้าสู่ภาวะอุปสงค์ชะลอตัว และอุปทานเพิ่มต่อเนื่อง

อีกทั้งยังมีปัจจัยที่ต้องเกาะติดหลายประการ ทั้งความสามารถทำกำไรของธุรกิจเทคโนโลยีว่าจะดีต่อเนื่องหรือไม่ ผลเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะส่งผลต่อแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐฯ และของโลกตามมา เพราะแนวนโยบายของทั้ง 2 พรรคการเมืองแตกต่างกัน รวมถึงการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่อาจทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 5% ที่ทางการจีนตั้งไว้ ส่งผลให้ตลาดการเงินโลกมีโอกาสจะผันผวนสูง

อย่างไรก็ตาม การลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กลับส่งผลดีต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) ที่เศรษฐกิจยังคงเติบโตดีเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (DM) ส่วนการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ช่วยหนุนให้มีเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้น EM รวมถึงไทย ทำให้หุ้นไทยสามารถปรับขึ้นตามมา โดยการปรับตัวของดัชนีจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแนวโน้มผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทย และแรงส่งจากการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ของรัฐบาลด้วยว่า จะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจไทยทั้งปีขยายตัวได้เกิน 2.5% หรือไม่ เพราะหากประเมินภาพเศรษฐกิจยุโรปปีนี้ คาดว่าจะขยายตัว 0.8% ต่ำกว่าสหรัฐฯ ที่ขยายตัว 2.3% ส่วนเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่นน่าจะชะลอตัวเล็กน้อย แตะ 4.8% และ 0% ตามลำดับ ทำให้การส่งออกอาจมีข้อจำกัดบ้างในระดับหนึ่ง

เบื้องต้น ประเมินเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ่้นปีนี้ ที่ 1,500 จุด และปีหน้า ที่ 1,550 จุด พร้อมแนะนำให้น้ำหนักกับหุ้นบริษัทที่ผลดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และได้ประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัว จากแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการปรับลดดอกเบี้ย ได้แก่ BDMS, CPALL, GPSC, HANA และ LHHOTEL  

ขณะที่หุ้นต่างประเทศ แนะหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง ได้แก่ กลุ่มซ่อมแซมตกแต่งบ้าน (HD, LOW) กลุ่มพลังงานสะอาด (FSLR, ENPH)  หุ้นที่มี Valuation ไม่แพงและปันผลสูง (VZ, PFE, F, TGT) และหุ้นเทคโนโลยีที่ผลประกอบการยังมีแนวโน้มดี (MSFT, AMD, CRM, PANW, NVDA)

ซึ่งเมื่อให้คัดเลือกหุ้นเพื่อลงทุน ควรให้น้ำหนักหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีมากกว่าประเด็นความถูกของมูลค่าหุ้น โดยตลาดหุ้นยุโรป แนะนำหุ้นที่เน้นพลังงานสะอาด และหุ้นที่ได้ Sentiment จากดอกเบี้ยขาลง อย่าง Iberdrola, Enel  ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีเน้นไปที่กลุ่มที่อิงกับอุตสาหกรรมยานยนต์น้อย นำโดย ASML, SAP ส่วนตลาดหุ้นจีนให้เน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมใหม่อย่าง China Mobile, CATL, CRRC, SMIC และหุ้นที่มีพื้นฐานดีและผันแปรจากปัจจัยภายนอกน้อยอย่าง BYD, Luxshare, Tencent, Trip.com, Xiaomi   

 




 
 
 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้