5197 จำนวนผู้เข้าชม |
นางอาทิตยา ปัญจทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน บมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง (BLS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ (OKJ) เปิดเผยว่า พร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 159 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26.1% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 6.70 บาท จากราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท ระหว่างวันที่ 23-25 กันยายนนี้ ผ่านบริษัทฯ และผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 2 ราย คือ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) และบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (CGSI) คาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ หมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ในวันที่ 4 ตุลาคมที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ การตั้งราคา IPO ที่ 6.70 บาท พิจารณาทั้งจากผลสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นทั้งสิ้น 79 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 49.7% ของจำนวนหุ้น IPO ทั้งหมด รวมถีงการพิจารณากำไรสุทธิย้อนหลัง 4 ไตรมาสล่าสุด ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ถึงไตรมาส 2 ปีนี้ คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 24.30 เท่า ซึ่งต่ำกว่าบริษัทที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึง หรือใกล้เคียงกัน อย่าง บมจ. อาฟเตอร์ ยู (AU) และ บมจ. มากุโระ กรุ๊ป (MAGURO)
ถือได้ว่าสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งในฐานะ King of Organic Salad ในประเทศ และศักยภาพการเติบโตที่สูงของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก และการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนขยายสาขา สร้างครัวกลางแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้แข็งแกร่งมากขึ้น ผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน
ความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของ OKJ ทำให้บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ (Modulus) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ขอรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในระดับ 20% ต่อไป ทำให้จะมีการซื้อหุ้นจากผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ทั้ง 3 ราย ผ่านกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) เพิ่มอีก 31.8 ล้านหุ้น หรือ 5.22% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ที่ราคา IPO หุ้นละ 6.70 บาท ในการซื้อขายวันแรกด้วย
ด้านนายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OKJ ชี้แจงว่า หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าลงทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ตามแผน 5 ปี (ปี 2567-71) ด้วยการนำเงินระดมทุนมาใช้ขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋ ทั้งร้านอาหารรูปแบบเดิม และร้านอาหารรูปแบบใหม่ เป็น 67 สาขา ภายในปี 2571 พร้อมทั้งพัฒนาเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มผลผลิต เพิ่มสายการผลิตสินค้าเพิ่มเติมที่ครัวกลางในกรุงเทพฯ เพิ่มกำลังการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value chain) เพื่อให้สามารถจัดส่งผลผลิตที่สดใหม่จากสวนถึงหน้าร้านสาขาภายใน 28 ชั่วโมง ควบคู่ไปกับพัฒนาเมนูและผลิตภัณฑ์ต่างๆ
รวมถึงใช้จุดแข็งในการทำเกษตรอินทรีย์มาพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่ๆ โดยคงคอนเซ็ปต์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ผ่านการขยายสาขาร้าน Oh! Juice และร้าน Ohkajhu Wrap & Roll โดยมีแผนจะขยายสาขา 2 แบรนด์ใหม่ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ โดยตั้งเป้าขยายสาขาร้าน Ohkajhu Wrap & Roll ให้ครบ 20 สาขา และขยายสาขาร้าน Oh! Juice ให้ครบ 70 สาขา ภายในปี 2571 เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น
และเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารได้มีการทำข้อตกลงร่วมกันว่า พร้อม Lock Up หุ้นที่ไม่ติด Silent Period ทั้งหมดเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อตอกย้ำว่า พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจอย่างเต็มกำลัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผลักดันการเติบโตไปพร้อมบริษัทฯ เหมือนช่วงก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ OKJ มีผลดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งด้านรายได้และกำไร
เมื่อบริษัทฯ สามารถพลิกจากขาดทุน 84.55 ล้านบาท ในปี 2564 มาเป็นกำไร 38.32 ล้านบาท และ 140.65 ล้านบาท ในปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ ตามการเติบโตของรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจาก 797.86 ล้านบาท ในปี 2564 เพิ่มเป็น 1,210.41 ล้านบาท และ 1,712.83 ล้านบาท ในปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ
ขณะที่ผลดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,110.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 102.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น ทั้งยอดขายจากสาขาเดิม และการขยายสาขารูปแบบ Full-service Restaurant 6 สาขา ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2566 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังเริ่มรับรู้รายได้จากการเปิดร้านอาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ใหม่ในปีนี้ ทั้งร้าน Ohkajhu Wrap & Roll ที่เริ่มเปิดสาขาแรกในเดือนเมษายน ต่อเนื่องด้วยร้าน Oh! Juice ที่เริ่มเปิดสาขาแรกในดือนพฤษภาคม