กองทุนวายุภักษ์หนึ่ง เตรียมเปิดขายหน่วยลงทุนให้ประชาชนทั่วไป 16-20 ก.ย. นี้ การันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ 3.0% ต่อเนื่อง 10 ปี ก่อนดีเดย์ซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ 7 ต.ค. นี้

5436 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กองทุนวายุภักษ์หนึ่ง เตรียมเปิดขายหน่วยลงทุนให้ประชาชนทั่วไป 16-20 ก.ย. นี้ การันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ 3.0% ต่อเนื่อง 10 ปี ก่อนดีเดย์ซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ 7 ต.ค. นี้



หลังจากสถานการณ์ตลาดทุนไทยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิหุ้นไทยรวมกว่า 5.3 แสนล้านบาท ทั้งจากปัจจัยความผันผวนของตลาดการเงินโลก ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจไทย และยังไม่เห็นสัญญาณการเติบโตในอัตราที่สูง ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นไทยช่วง 7 เดือนแรกปี 2567 นี้ ยังไม่สดใสต่อเนื่อง เมื่อตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ส่งผลให้ตลาดยังขาดแคลนเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ฉุดให้มูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงมูลค่าการระดมทุนของตราสารทุนและตราสารหนี้มีอัตราชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ประชาชนและนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ ยังคงมีสภาพคล่องส่วนเกินและมองหาการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีและมีความมั่นคงในระยะยาว

ดังนั้น เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนให้แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจึงเห็นควรผลักดันการระดมทุนผ่านกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง (VAYUPAK 1) วงเงินรวม 1.0-1.5 แสนล้านบาท ด้วยการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. และนำหน่วยลงทุนดังกล่าวเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในไตรมาส 3 นี้ โดยแนวทางการลงทุนของกองทุนจะเน้นการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีผลตอบแทนที่ดี มีความมั่นคงและยั่งยืน อีกทั้งมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อเป็นทางเลือกในการหาผลตอบแทนที่มั่นคง และสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบริหารจัดการหลักทรัพย์ที่รัฐถือครองให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว รวมถึงลงทุนในกิจการที่มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อประเทศในเชิงเศรษฐกิจและจำเป็นต้องการการส่งเสริมจากภาครัฐ ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศ โดยกองทุนฯ มีหน่วยลงทุน 2 ประเภทคือหน่วยลงทุนประเภท ก. และประเภท ข. ปัจจุบันกองทุนฯ มีเพียงหน่วยลงทุนประเภท ข. และกำลังจะระดมทุนโดยเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ต่อประชาชน และนักลงทุนทั่วไป

เบื้องต้น หน่วยลงทุนประเภท ก. จะมีระยะเวลาการลงทุนประมาณ 10 ปี โดยผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง ตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริง ในอัตราไม่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำที่ 3% และไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูงที่ 9% ตลอด 10 ปี เพราะมีกลไกการบริหารความเสี่ยงด้วยวิธี Asset Coverage Ratio (ACR) ซึ่งคำนวณจาก NAV รวม หารด้วยมูลค่าหน่วยลงทุนประเภท ก. ช่วยคุ้มครองเงินต้นของหน่วยลงทุนประเภท ก. หรือพูดง่ายๆ คือ มูลค่าสินทรัพย์ผู้ถือหน่วยประเภท ข. จะทำหน้าที่เสมือนกันชนสำรอง (buffer) ให้กับผู้ถือหน่วยประเภท ก.

 

 



ปัจจุบันกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ. กรุงไทย (KTAM) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี (MFC) เป็นผู้จัดการกองทุน สามารถบริหารจัดการทรัพย์สินสุทธิให้มีมูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 15% หลังจากแปรสภาพกองทุนจากกองทุนปิดเป็นกองทุนเปิด ในปี 2556 ที่ผ่านมา และจ่ายเงินปันผลให้กับกระทรวงการคลังปีหนึ่งๆ กว่า 40,000 ล้านบาท

สำหรับรายละเอียดในการเสนอขายกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง ได้รับการชี้แจงจากนายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ MFC ว่า พร้อมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่นักลงทุนรายย่อย รวมถึงนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือกองทุนส่วนบุคคลของผู้ลงทุนรายย่อย เป็นกลุ่มแรก ในวงเงิน 3 – 5 หมื่นล้านบาท ระหว่างวันที่ 16 – 20 กันยายนนี้ ที่ราคาเสนอขายหน่วยลงทุนละ 10 บาท และทวีคูณในอัตราหน่วยละ 1,000 บาท ผ่านบริษัทฯ และ KTAM กับธนาคารพาณิชย์อีก 6 แห่ง ได้แก่ บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB) บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารออมสิน โดยจะจัดสรรด้วยวิธี Small Lot First โดยผู้จองซื้อจำนวนขั้นต่ำจะได้รับการจัดสรรก่อน ผู้สนใจสามารถจองซื้อได้ผ่านสำนักงาน สาขา และช่องทางออนไลน์ของทั้ง 8 ผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน ซึ่งจะมีการประกาศผลการจัดสรรผลการจองซื้อหน่วยลงทุน ในวันที่ 25 กันยายน เวลา 9.00 น. ผ่านเว๊บไซต์ settrade.com  และหากผู้จองหน่วยลงทุนได้รับการจัดสรรหน่วยลงทุนต่ำกว่าเป้าหมายในการลงทุน จะมีการคืนเงินในวันที่ 8 ตุลาคม

ขณะที่การเสนอขายส่วนที่เหลืออีก 1.0-1.2 แสนล้านบาท จะจัดสรรให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และนิติบุคคลเฉพาะกลุ่ม ระหว่างวันที่ 25 – 27 กันยายน 




ด้านนางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ KTAM เสริมว่า กองทุนมีนโยบายการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นหลัก เน้นไปที่หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคงในระยะยาว ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยเฉพาะบริษัทที่อยู่ใน SET100 ที่ได้รับคะแนน SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป รวมถึงหรือบริษัทนอก SET100 ที่ได้รับคะแนน SET ESG Ratings ที่สูงกว่าระดับ AA และอาจพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่มีอัตราผลตอบแทนดีหรือมีแนวโน้มเติบโตสูง มีสภาพคล่องและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี

ขณะที่แนวทางการลงทุนจะเข้าลงทุนทั้งแบบเชิงรุก (Active Investment) และแบบเชิงรับ (Passive Investment) ให้สอดคล้องกับภาวะการลงทุนในแต่ละจังหวะเวลา โดยจะเริ่มต้นทยอยลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป และคาดว่าผู้ถือหน่วยลงทุน จะสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมเป็นต้นไป  

ซึ่งเมื่อพิจารณาจากแนวนโยบายการลงทุน ทำให้นักวิเคราะห์ มีการคาดหมายหุ้นที่เข้าข่ายเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่งไว้ที่ 24-37 ตัว

 

 

 

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้