SPREME ยืนเหนือจองตลอดภาคเช้า ก่อนปิดต่ำจองตามบรรยากาศการลงทุนที่ไม่เอื้ออำนวย

4879 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SPREME ยืนเหนือจองตลอดภาคเช้า ก่อนปิดต่ำจองตามบรรยากาศการลงทุนที่ไม่เอื้ออำนวย

 


การเข้าซื้อขายวันแรกของ บมจ. สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) หนี่งในผู้นำธุรกิจออกแบบ จัดหา และติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ หรืองานด้าน SI (System Integrator) ครบวงจร ไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่ได้หุ้นจองที่ขายทำกำไรในครึ่งวันเช้า เมื่อราคาหุ้นยืนเหนือจองได้ตลอด โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 3.42 บาท สูงกว่าราคาจองที่ 2.60 บาท อยู่ 82 สตางค์ คิดเป็นผลตอบแทน 31.54% มีแรงซื้อดันราคาขึ้นไปเรื่อยๆ กระทั่งแตะจุดสูงสุดของวันที่ 3.48 บาท ถึงเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรกระจายตัวออกมาหนาแน่นขึ้น กดราคาหุ้นให้ค่อยๆ ปรับฐานลงมา แต่ยังยืนระยะได้เหนือ 2.68 บาท ตลอดการซื้อขายภาคเช้า ก่อนจะปรับฐานลงเป็นลำดับในภาคบ่าย เมื่อแรงซื้อบางเบาลงไปตามภาวะตลาดที่ซบเซา กดให้ราคาค่อยๆ ต่ำจอง กระทั่งปิดตลาดที่ 2.30 บาท ต่ำจอง 30 สตางค์ คิดเป็นผลขาดทุน 11.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,266 ล้านบาท  

ไม่ว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไร นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPREME ชี้แจงว่า พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ ทั้งการเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่มูลค่ามากกว่าพันล้านบาท ในเร็วๆ นี้ เพิ่มงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ที่มีกว่า 440 ล้านบาท ผลักดันการเติบโตใน 2-3 ปีนี้ รวมถึงเดินหน้าลงทุนซื้อกิจการเพื่อต่อยอดธุรกิจให้มีศักยภาพการเติบโตสูงขึ้น และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

 

 




 
ขณะที่นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ (Finnex) ที่ปรึกษาทางการเงิน และนายธีรฉัตร ศิลปสนธยานนท์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า (FNS) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ เสริมว่า การที่พื้นฐานธุรกิจของ SPREME มีความเสี่ยงต่ำ มีความมั่นคงด้านรายได้ ทั้งจากธุรกิจหลักด้าน SI ธุรกิจให้บริการดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง (MA) และธุรกิจให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ทำให้มั่นใจได้ว่า จะสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอให้กับนักลงทุนในระยะยาว ขณะที่การมีฐานเงินทุนที่เข้มแข็งมากขึ้น จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับงานโครงการขนาดใหญ่ สร้างการเติบโตของรายได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งการซื้อกิจการเพื่อเพิ่มช่องทางหารายได้ใหม่ๆ รองรับแผนนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในระบบการศึกษา และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดีให้ประชาชน ทั้งในรูปแบบเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety) ยังจะเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างโดดเด่นในระยะสั้นถึงกลาง

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้