QTCG ไม่หวั่นต่ำจอง พร้อมพิสูจน์ผลงานเป็นคำตอบ ที่ปรึกษาทางการเงินเชื่อเป็นจังหวะสะสมหุ้น

5113 จำนวนผู้เข้าชม  | 

QTCG ไม่หวั่นต่ำจอง พร้อมพิสูจน์ผลงานเป็นคำตอบ ที่ปรึกษาทางการเงินเชื่อเป็นจังหวะสะสมหุ้น


 

การเข้าซื้อขายวันแรกของ บมจ. คิวทีซีจี (QTCG) สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่ได้หุ้นจองและออกของช้า และนักเก็งกำไร เมื่อราคาหุ้นปรับฐานอย่างรวดเร็วจากที่เปิดตลาดบริเวณ 2.18 บาท สูงกว่าราคาจอง 98 สตางค์ คิดเป็นผลตอบแทน 81.67% และพุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวันที่ 2.28 บาท เหนือจอง 90% ในเวลาไม่ถึง 2 นาที แต่หลังจากนั้น เริ่มมีแรงขายโถมออกมาสวนทางแรงซื้อที่บางเบา กดให้ราคาหุ้นค่อยๆ ปรับฐานลงมาเป็นลำดับ แต่ยังยืนระยะได้เหนือราคาจอง ก่อนจะหลุดจองที่ 1.20 บาท ช่วง 11.50 น. โดยแตะจุดต่ำสุดที่ 1.15 บาท ถึงเริ่มเห็นแรงซื้อหนุนราคาให้ฟื้นตัวขึ้นมาปิดภาคเช้าที่ราคาจอง

อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยหนุน สังเกตได้จากมูลค่าการซื้อขายที่บางเบาแค่ 3 หมื่นล้านบาท ทำให้หลังจากเปิดตลาดภาคบ่าย เริ่มมีแรงขายกดราคาหุ้นให้ทรุดตัวลงเป็นลำดับ มายืนที่ 0.99 บาท แต่ช่วงทำราคาปิด (ATC) หุ้นกลับถูกกดราคาลงมาทำจุดต่ำสุดของวัน ที่ 0.95 บาท ต่ำจอง 25 สตางค์ คิดเป็นผลขาดทุน 20.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 1,205.50 ล้านบาท   

ทั้งนี้ แรงขายที่เกิดในการซื้อขายวันแรก ได้รับการเปิดเผยในสัปดาห์ถัดมาว่า เกิดจากผู้ถือหุ้นอันดับ 3 นายยศวีย์ วัฒนธีระกิจจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย (24CS) เทขายหุ้นจำนวน 35.50 ล้านหุ้น (คิดเป็นสัดส่วน 5.92%) จากจำนวนหุ้นที่ถือทั้งหมด 42 ล้านหุ้น (คิดเป็นสัดส่วน 7.00%) พร้อมทั้งตั้งคำถามตามมาด้วยว่า ทำไมถึงขายหุ้นได้ ทั้งที่มีเกณฑ์ Silent Period กำหนดไว้อย่างชัดเจน

แต่ไม่ว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไร นายธิติวัฒน์ เงินนำโชคธนรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร QTCG บอกว่า พร้อมเดินหน้าแผนผลักดันบริษัทฯ ก้าวเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารแบบครบวงจร สอดรับกับวิสัยทัศน์และพันธกิจ QTCG ที่พร้อมสร้างผลงานที่มีคุณภาพและมาตรฐานภายใต้งบประมาณ และส่งมอบงานตรงตามเวลาที่กำหนด ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมงาน ผสมผสานกับเทคโนโลยีขั้นสูงที่ทันสมัย และยึดมั่นกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคมและประเทศชาติ โดยนำเงินที่ได้จากการระดมทุนราว 200 ล้านบาท ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจช่วง 2 ปีนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางการเงิน และโอกาสขยายการรับงาน

 



เฉพาะปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะเห็นการเติบโตของรายได้สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20% หนุนจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2567 ของหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนถึงเดือนกันยายนนี้ และอัตราความสำเร็จในการรับงานใหม่ที่สูงระดับ 40-50% จากการเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ ของภาครัฐและเอกชน มูลค่ารวมกว่า 3,500-4,000 ล้านบาท อีกทั้งยังจะรับรู้รายได้จากโครงการในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ 1,158 ล้านบาท ปีนี้ราว 50%

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นควบคุมต้นทุน และใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงกว่า 10% ควบคู่ไปกับการควบคุมต้นทุนทางการเงินให้อยู่ระดับต่ำ เพื่อบริหารกระแสเงินสดให้อยู่ในระดับที่ดี เพิ่มขีดความสามารถในการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ 

ขณะที่นายกิตติชัย นาคะประเสริฐกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บมจ.หลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน ประเทศไทย (UOBKH) ที่ปรึกษาทางการเงินควบผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม เสริมว่า QTCG ถือเป็นหุ้นเติบโต (Growth Stock) ที่พร้อมสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน จากการเป็นหนึ่งในฟันเฟืองต่อยอดความสำเร็จในการสร้างรากฐานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารแบบครบวงจร ซึ่งเติบโตตามการขยายลงทุนภาครัฐและเอกชน และการมีเงินทุนเพิ่มโอกาสรับงานได้เพิ่มขึ้นถึงสามเท่าตัว ช่วยผลักดันผลดำเนินงานให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น สนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ดังนั้น การฉวยจังหวะที่ราคาหุ้นปรับฐานเพื่อซื้อสะสมหุ้นลงทุนระยะกลางถึงยาว จะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงเกิน 177% สะท้อนผ่านราคาเป้าหมายที่ตลาดให้ไว้ 

 

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้