5411 จำนวนผู้เข้าชม |
การเข้าซื้อขายวันแรกของ บมจ. แบงคอกจีโนมิกส์ อินโนเวชั่น (BKGI) ไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่ได้หุ้นจอง และนักเก็งกำไร เมื่อราคาหุ้นปรับตัวอย่างร้อนแรงตลอดวัน โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 2.18 บาท เหนือจอง 55 สตางค์ หรือคิดเป็นผลตอบแทน 33.74% และแกว่งตัวแคบๆ ระหว่าง 2.14-2.24 บาท ใน 2 นาทีแรก หลังจากนั้น เริ่มมีแรงซื้อหนุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดันราคาหุ้นให้ปรับขึ้นเป็นลำดับ กระทั่งปิดตลาดทำสถิติสูงสุด ที่ 4.40 บาท สูงกว่าราคาจองที่ 1.63 บาท ถึง 2.77 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 169.93% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3,227.88 ล้านบาท
กระแสตอบรับจากการซื้อขายวันแรก ทำให้ ดร. เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BKGI ต้องออกมาขอบคุณผู้ถือหุ้นและนักลงทุนที่ให้การต้อนรับ BKGI อย่างอบอุ่น เพิ่มกำลังใจให้ทีมงานและผู้บริหารของบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้เพื่อสร้างโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด ตามโรดแมปการดำเนินธุรกิจ 3 ปีข้างหน้า ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลรัฐและเอกชน ควบคู่ไปกับการเพิ่มบริการใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าในและต่างประเทศ โดยนำเอาจุดแข็งจากผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่ม BGI เจ้าแห่งศาสตร์จีโนมิกส์การถอดรหัสพันธุกรรมระดับโลก และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มาเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับภูมิภาค ให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมการแพทย์จีโนมิกส์ ซึ่งเป็นธุรกิจแห่งอนาคต
ขณะที่นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น เสริมว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายวันแรก มีเหตุผลจากนักลงทุนมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่ง ดูได้จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับย้ำว่า BKGI จะเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในระยะยาว ทั้งจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ ที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 23.40% ช่วงปี 2563 - 2566 และการขยายการให้บริการที่เป็น New S-Curve ในยุคสังคมผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจพันธุกรรม หรือตรวจคัดกรองโรคต่างๆ เพื่อหาวิธีป้องกันโรค และวางแผนการใช้ชีวิตครอบคลุมทุกช่วงชีวิต ในราคาที่เข้าถึงได้ ก่อนขยายฐานรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้กับลูกค้าที่ใช้บริการถอดรหัสทางพันธุกรรมเฉพาะบุคคลอย่างละเอียด ตามคำแนะนำของแพทย์
ผลลัพธ์ที่ตามมา คือ นักลงทุนให้การตอบรับ BKGI อย่างคึกคักต่อเนื่องในวันทำการถัดมา ทำให้มีแรงซื้อดันราคาหุ้นทะยานทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.65 บาท ก่อนเผชิญแรงขายทำกำไรโถมออกมากดราคาหุ้นปรับฐานลงมาที่ 4.50 บาท ก่อนมีแรงซื้อดันราคากลับขึ้นมาปิดที่ 5.45 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการซื้อขายวันแรกอีกเกือบ 24% แต่หากเปรียบเทียบกับราคาจอง สามารถสร้างผลตอบแทนมากถึง 246.62% ทะลุเป้าหมายที่นักวิเคราะห์หลายค่ายให้ไว้เป็นเท่าตัว
ต่อจากนั้น แรงซื้อเริ่มหดหายไป ส่งผลให้ราคาหุ้นเริ่มปรับฐานลงมาต่ำกว่า 4 บาท มาแกว่งระหว่าง 3.34 - 3.78 บาท ด้วยปริมาณการซื้อขายต่อวันสูงกว่า 1,370 บาท จนติด Cash Balance ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมา ทำให้ราคาค่อยๆ ย่อตัวลงมาจนต่ำกว่า 3 บาท ในที่สุด