3338 จำนวนผู้เข้าชม |
บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน บริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท สยามพิวรรธน์ (ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม ไอซีเอส และ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ ) และบริษัท ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป (ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกอันดับหนึ่งของโลก) ซึ่งเป็นผู้บริหารโครงการ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ ประกาศความสำเร็จในการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ ตอกย้ำการเป็นองต์กรต้นแบบขับเคลื่อนธูรกิจสู่ความยั่งยืน โดยร่วมมือกับ บมจ. กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) พัฒนาพื้นที่หลังคาแนวราบติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ณ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ บนพื้นที่กว่า 50,000 ตารางเมตร มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
การติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ครั้งนี้ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนการใช้ไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ถึง 3.8 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง/ปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emission Reduction) เทียบเท่า 1,900 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ( tCO2e) หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 110,465 ต้น ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โอกาสนี้ นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ บอกว่า สยามพิวรรธน์ และไซม่อนกรุ๊ป มีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนอย่างจริงจังเหมือนกัน จึงให้ความสำคัญกับแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นวาระสำคัญของโลก ผ่านการลดการใช้พลังงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ทำให้จับมือกับกลุ่ม GUNKUL ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ และเป็นหนึ่งในผู้นำด้านพลังงานทางเลือก และพลังงานสะอาด พัฒนาและติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป บนพื้นที่สยามพรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ กว่า 50,000 ตารางเมตร เพื่อนำพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ มาใช้ทดแทนพลังงานไฟฟ้า ตอกย้ำเป้าหมายองค์กรในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ให้กับโลก
ขณะที่นายไมเคิ่ล ถัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน ผู้บริหารโครงการสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ บอกว่า สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ เป็นโครงการพรีเมียม เอาท์เล็ตแห่งเดียวในไทยที่ติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป เต็มรูปแบบ เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในโครงการ ซึ่งหลังจากติดตั้งแล้วเสร็จ โครงการก็เริ่มใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในเดือนสิงหาคมทันที โดยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตร เพื่อนำนวัตกรรมที่เป็นมาตรฐานสากลเข้ามาพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่ดูแลผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ส่วนนางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร GUNKUL กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงบทบาทที่สำคัญของพลังงานสีเขียวในการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขัน และภาพลักษณ์ขององค์กรธุรกิจในเวทีโลก ผนวกกับประเทศไทยเอง ก็มีเป้าหมายในการเข้าสู่การเป็น Carbon Neutral Society ทำให้โซลาร์รูฟ สามารถตอบโจทย์ทั้งในมิติของการประหยัดค่าใช้จ่าย และการแก้ไขสิ่งแวดล้อมได้ควบคู่กันไป ซึ่งปัจจุบัน โครงการสัญญาซื้อขายพลังงานแสงอาทิตย์ (Private PPA) ที่แล้วเสร็จมีกำลังการผลิตรวมกว่า 100 เมกะวัตต์ (MW) สามารถนำมาช่วยต่อยอดและขยายภาพวิสัยทัศน์ของสยามพิวรรธน์ให้ชัดเจน และเติบโตอย่างยั่งยืนไปอีกขั้น ส่งเสริมธุรกิจสอดคล้องกับการคำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟู และส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับทุกชีวิต