3478 จำนวนผู้เข้าชม |
นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พราว เรียล เอสเตท (PROUD) เปิดเผยว่า การที่บริษัทฯ มีแนวคิดในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโครงการแบบลักชัวรี และอัลตร้าลักชัวรี เริ่มต้นจากการทำวิจัย เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในเชิงลึก ก่อนตัดสินใจดำเนินโครงการ และผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยแรกในการตัดสินใจเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์จะเป็นเรื่องของทำเล โดยเฉพาะทำเลที่คุ้มค่าต่อการอยู่อาศัย ทำเลที่คุ้นเคย หรือทำเลที่ในอนาคตมีโอกาสจะถูกพัฒนาสูง
ส่วนปัจจัยที่จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อโครงการ ลำดับความสำคัญจะขึ้นกับความสอดคล้องระหว่างโครงการกับไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิต รวมถึงสามารถเข้าได้กับความต้องการของทุกคนในครอบครัว สะท้อนผ่านรูปแบบบ้าน พื้นที่ใช้สอย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้บริษัทฯ มองหาทำเลที่โดดเด่น จนได้ที่ใจกลางอารีย์ซอย 3 จากนั้น จึงเริ่มทำการคิดในทุกๆ รายละเอียดอย่างเป็นระบบ ในทุกๆ จุด จนเกิดโครงการวี อารีย์ (VI ARI) ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ โครงการแรกของบริษัทฯ ที่มีเพียง 6 หลัง ที่พร้อมส่งมอบความเป็นส่วนตัวแบบสุดเอกคลูซีฟ
ส่วนนายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร PROUD อธิบายว่า โครงการ VI ARI เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักชัวรี 3.5 ชั้น ขนาด 3-5 ห้องนอน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ พร้อมสระว่ายน้ำ และลิฟต์ส่วนตัวทุกหลัง บนเนื้อที่ 53.0 - 56.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 550 ตารางเมตร ออกแบบผ่านนิยามใหม่ของการใช้ชีวิตวิถีคนเมืองอย่างสุนทรียภาพ กลมกลืนวัฒนธรรมเก่า และใหม่ที่ลงตัว พร้อม Private Courtyard พื้นที่สีเขียวและพันธุ์ไม้นานาชนิดภายในตัวบ้านที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ที่ออกแบบโดยบริษัทอินทีเรียดีไซน์ผลงานระดับโลก อย่าง P49 Deesign ผสมสานกับบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านออกแบบงานสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ชั้นนำ อย่าง stu/D/O architects และ TK Studio
พร้อมกันนี้ โครงการ VI ARI ยังยกระดับความพิเศษอีกขั้นด้วย Luxury Furniture แบรนด์ชั้นนำจากยุโรปที่นำเข้าโดย บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ (Euro Creations) พร้อมเสริมฟังก์ชัน VI CARE - Smart Home โดยนำนวัตกรรมส่งเสริมเรื่อง Net Zero ให้บ้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยี Solar Cell, Food Waste Composting Machine และ Food Waste Disposer ระบบ Home Automation ที่ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ภายในบ้านแบบออนไลน์ได้ พร้อมเติมระบบ Fresh Air ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในบ้าน มาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และเน้นความเป็นส่วนตัวด้วย Gated Community ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และยังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนและเลือก Theme การตกแต่งภายในบ้านและปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในบ้านได้ตามความต้องการ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้เป็นแบบสุดเอกคลูซีฟ และคุ้มค่าราคาขายเริ่มต้นที่ 82 ล้านบาท
โอกาสนี้ นางสาวสายวิภา พัฒน์พงศ์พิบูล กรรมการบริหาร บริษัท พี 49 ดีไซน์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (P49) กล่าวเสริมถึงเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะของโครงการ VI ARI ว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านพักอาศัยย่านอารีย์ สไตล์โมเดิร์นยุค 1970-80 ที่มีลักษณะเฉพาะตัว มาพัฒนาต่อยอดให้เป็นบ้านพักอาศัยที่มีความทันสมัย รวมถึงการออกแบบพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สอดแทรกไปกับพื้นที่ใช้สอยในแต่ละชั้น ส่วนการออกแบบตกแต่งภายใน และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในทุกๆ จุด ทำด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสการใช้ชีวิตที่มากกว่า "ได้มากที่สุด” และมีความสุขได้ในทุกๆ วัน
ขณะที่นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย (CBRE) ชี้ประเด็นว่า ทำเลใจกลางเมืองย่านอารีย์ ถือเป็นย่านธุรกิจที่แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สำนักงานระดับเกรดเอบวก และเกรดเอ ทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยมีพื้นที่สำนักงานให้เช่าในปัจจุบัน และที่กำลังก่อสร้างกว่า 1.6 ล้านตารางเมตร ประกอบกับความสะดวกด้านการคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าบีทีเอส ตำแหน่งใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน สามารถเชื่อมต่อไปยังทำเลอื่นๆ ที่สำคัญของกรุงเทพฯ ได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งยังอยู่ใกล้สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และโรงพยาบาลชั้นนำ จึงทำให้ทำเลใจกลางอารีย์ซอย 3 เป็นทำเลที่มีศักยภาพอย่างแท้จริง และมีโอกาสที่จะถูกพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตอีกด้วย
ประการสำคัญ การที่โครงการ VI ARI อยู่ในทำเลที่ยากที่จะหาที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการบ้านพักอาศัยได้ สวนทางความต้องการที่มีสูง จึงทำให้อัตราความสำเร็จของยอดขายสูงถึง 94% ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับบ้านระดับลักชัวรี่ และอัลตร้าลักชัวรี ในทำเลอื่นๆ ยิ่งรูปแบบบ้าน มีการผสมผสานระหว่างความหรูหราและเสน่ห์ของงานสถาปัตยกรรม ยิ่งทำให้โครงการนี้สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัย และไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัวได้อย่างลงตัว กลายเป็นทางเลือกลำดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการที่พักอาศัยระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่อย่างแท้จริง
ผู้บริหาร PROUD ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากได้เปิดให้ผู้สนใจมาเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับที่ดี ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าคนไทย ที่มีความคุ้นเคยกับการอาศัยในบริเวณใกล้ๆ ซอยอารีย์ ทำให้มีความเชื่อมั่นว่า จะสามารถปิดยอดขายได้ภายในปีนี้ ก่อนทยอยโอนและรับรู้รายได้ในปีหน้า
สำหรับภาพรวมธุรกิจปีนี้ น่าจะทำได้ใกล้เคียงปีที่่ผ่านมา ก่อนเติบโตก้าวกระโดดในปีหน้า จากการรับรู้รายได้โครงการ VI ARI และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station) และโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) ที่บริษัทฯ ซื้อมาจาก บมจ. โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE)
สำหรับผู้สนใจ สามารถนัดเยี่ยมชมบ้านตัวอย่าง VI ARI ได้ที่โทร 02 - 026 - 8999 หรือ https://bit.ly/ViAri ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป