เงินเทอร์โบ ตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อดิจิทัล ปี 2556 โต 50% เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท หลังได้ KBANK ร่วมลงทุน 10%
2685 จำนวนผู้เข้าชม |
นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารเดินหน้าโครงการเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งขยายโอกาสการเข้าถึงบริการธนาคารให้แก่คนไทยในวงกว้างมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการผสานเอาความเป็น "ชาเลนเจอร์แบงก์" เข้ามาในองค์กร ด้วยเทคโนโลยีและวิธีการทำงานแบบใหม่ๆ ของธนาคาร รวมทั้งส่งเสริมธุรกิจที่มีศักยภาพการให้บริการสินเชื่อสำหรับคนตัวเล็ก
ล่าสุด ธนาคารได้เข้าลงทุนในบริษัท เงินเทอร์โบ ด้วยการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน 11.11 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเงินเทอร์โบในธุรกิจสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อดิจิทัล นายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัย และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพในการทำธุรกิจช่วงที่ผ่านมา และโอกาสเติบโตในอนาคต อีกทั้งเงินเทอร์โบยังเป็นองค์กรสมัยใหม่ ที่มีบุคลากรคุณภาพร่วมงานอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีความคล่องตัว และสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในสภาวะที่ตลาดมีการแข่งขันที่สูงและโลกที่เปลี่ยนไป
ขณะที่นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ธุรกิจให้บริการทางการเงินกับลูกค้ารายย่อยในชุมชนของของเงินเทอร์โบ ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก จากการที่บริษัทฯ เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยบุคลากรรุ่นใหม่และผู้บริหารมืออาชีพที่มากประสบการณ์ มีการลงทุนระบบสารสนเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูล การอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า หรือการบริหารต้นทุนทางการเงิน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน จนสามารถให้ให้บริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ด้วยคุณภาพการให้บริการที่ประทับใจ ซึ่งการได้รับเกียรติจาก บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK )เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ และศักยภาพการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเงินทุนให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้เงินเทอร์โบสามารถส่งมอบบริการทางการเงินสำหรับคนตัวเล็กได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น
โดยในปี 2566 นี้ เงินเทอร์โบตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,000 สาขา และตั้งเป้าสินเชื่อคงค้างกว่า 12,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีนี้กว่า 50% เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้ให้บริการทางการเงินรายย่อยชั้นนำของประเทศ
