553 จำนวนผู้เข้าชม |
การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ บมจ. เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC) ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 78 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 18 บาท เมื่อราคาหุ้นยืนเหนือจองตลอดวัน โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 27 บาท สูงกว่าราคาจอง 9 บาท ก็เจอแรงขายทำกำไรกดราคาหุ้นให้อ่อนตัวลง แต่ก็ไม่หลุด 26 บาท เพราะมีแรงซ์้อหนุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะๆ ดันราคาหุ้นให้ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งปิดที่จุดสูงสุดที่ 30 บาท ปรับขึ้น 12 บาท หรือสูงกว่าจอง 66.67%
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า มีกลุ่มนักลงทุนแนว VI อย่าง "กลุ่มวณิชวรากิจ" และกองทุน Big 3 เข้ามาซื้อหุ้น TKC ผ่านกระดานซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ (Big Lot) จำนวน 28.56 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ย 22.65 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 646.88 ล้านบาท
ซึ่งนายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ TKC ยอมรับว่า การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญตลอดสองปีนี้ โดยพร้อมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนราว 1,404 ล้านบาท มาใช้เตรียมความพร้อมในการประมูลงานใหม่ๆ เน้นไปที่ธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจระบบ Smart Solutions, Smart Logistics ธุรกิจ Cyber Security โฟกัสที่อินฟราสตรัคเจอร์ ระบบคลาวด์แบบไฮบริด อุปกรณ์โดรน ที่เกี่ยวกับสมาร์ทฟาร์มมิ่ง โดรนที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์ ทำแผนที่ โดยตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้นำด้านเหล่านี้ในอีก 1-3 ปีข้างหน้า
เฉพาะปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% เพราะจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีในปัจจุบัน 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการรับรู้รายได้ 80% จากงานโครงการ อีก 20% ที่เหลือจะเป็นงานบริการที่มีสัญญาระยะยาว สร้างรายได้ต่อเนื่อง 2 ปีนี้ อย่างโครงการ Real – Time Passenger Counting / Smart Airport ของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) มูลค่า 355 ล้านบาท หรือโครงการด้านการอบรม Cyber Security สำหรับ NCSA มูลค่า 101 ล้านบาท ที่ได้มาช่วงปลายปีก่อน
"มีการคาดหมายกันว่า ปีนี้จะมีการเปิดประมูลงานด้าน IT จากทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ คาดหวังว่าจะได้งานประมาณ 40-60%” กรรมการผู้จัดการ TKC ให้ความเชื่อมั่นนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น TKC ล่าสุด ยืนใกล้เคียงกับราคาเหมาะสมของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แล้ว โดยฝ่ายวิจัยเคจีไอ (KGI) ประเมินรายได้ของ TKC ปีนี้จะเร่งตัวขึ้น 76% จากปี 2564 เป็น 4,032 ล้านบาท ตามภาพรวมอุตสาหกรรม และความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลงานโครงการ ขณะที่คาดหมายอัตรากำไรขั้นต้น ช่วง 2 ปีนี้ (2565-66) ในอัตรา 16% เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของอัตรากำไรขั้นต้นย้อนหลัง 3 ปี (2562-64) ทำให้คาดว่า TKC จะมีกำไรสุทธิเติบโต 77.3% เป็น 393 ล้านบาท คิดเป็นราคาเหมาะสม 28 บาท
ส่วนฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด (KFSEC) ให้ราคาเหมาะสมที่ 30.50 บาท เมื่อคำนวณโดยใช้วิธี P/E Multiplier เทียบกับธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน อย่าง INSET, ITEL และ MFEC ที่ระดับ 21.40 เท่า อิงกับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565 ที่ 428.21 ล้านบาท ขยายตัว 100.97%