570 จำนวนผู้เข้าชม |
นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.หลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด (KFSEC) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บมจ.เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ร่วมกับ บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ ประเทศไทย (KGI) และ บมจ.หลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ พร้อมเปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 78 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 18 บาท จากราคาพาร์ 1 บาท ได้ระหว่างวันที่ 7, 10 – 11 มกราคมนี้ ก่อนเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวด ICT วันจันทร์ที่ 17 มกราคม
"การตั้งราคาจองที่ 18 บาท ถือเป็นระดับราคาที่สมเหตุสมผล และสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ และความสามารถทำกำไรของ TKC ที่คำนวณจากผลดำเนินงานย้อนหลังช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564) เทียบเคียง P/E ที่ 17.54 เท่า" นายวรนันท์ ชี้ประเด็น
ด้านนางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาการเงิน ขยายความเพิ่มว่า TKC ถือเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการออกแบบ วางระบบ และบริการที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล กับระบบความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่งเป็น trend ธุรกิจที่เติบโตอย่างโดดเด่นตามการเร่งตัวของเทคโนโลยี 5G ผลักดันให้มีความต้องการใช้ข้อมูล ระบบ Cloud Data Center และ Smart Solutions ทั้งเพื่อรองรับการทำธุรกรรมออนไลน์ การเก็บข้อมูลและประมวลผล ตลอดจนมีการใช้งานอุปกรณ์ IoT ที่เพิ่มมากขึ้น และเพื่อการดูแลความปลอดภัยทาง Cyber เป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้แนวโน้มผลดำเนินงานมีความโดดเด่นตามไปด้วย
ขณะที่นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC) ชี้แจงว่า บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ 1,404 ล้านบาท ไปใช้เป็นเงินทุนสำหรับเดินหน้าโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการเกี่ยวกับระบบโทรคมนาคม, ระบบโครงข่ายสื่อสัญญาณ (Transmission Networks), ระบบศูนย์ข้อมูลหลัก ศูนย์ข้อมูลสำรอง, ระบบคลาวด์, Smart Solutions, ระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัล หรือระบบตรวจสอบเฝ้าระวัง ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Security) เพื่อต่อยอดการเติบโตของรายได้และกำไรให้มีความแข็งแกร่ง ภายใน 2 ปีนี้ (2565-2566)
ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นที่หนึ่งในธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น ครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและ ICT รวมไปถึงธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต เช่น ธุรกิจระบบ Smart Solutions, Smart Logistics ธุรกิจ Cyber Security โฟกัสที่อินฟราสตรัคเจอร์ ระบบคลาวด์แบบไฮบริด อุปกรณ์โดรน ที่เกี่ยวกับสมาร์ทฟาร์มมิ่ง โดรนที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์ ทำแผนที่ โดยตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้นำด้านเหล่านี้ในอีก 1-3 ปีข้างหน้า
สำหรับผลดำเนินงานของ TKC ย้อนหลัง 3 ปี (2561 – 63) รายได้รวมอยู่ที่ 3,669.65 ล้านบาท, 4,907.25 ล้านบาท และ 2,881.92 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิ ทำได้ 216.50 ล้านบาท, 423.03 ล้านบาท และ 232.85 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 5.90%, 8.62% และ 8.09% ตามลำดับ
ส่วนผลดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,835.38 ล้านบาท ขยายตัว 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 191.07 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิราว 10.41% โดยโครงสร้างรายได้หลักๆ จะมาจากงานโครงการมากกว่า 64% ตามมาด้วยงานบริการและบำรุงรักษา ราว 35% ที่เหลือเป็นรายได้จากงานจัดจำหน่าย