BRI ปิดแตะจุดสูงสุด 12.40 บาท เหนือจอง 18% ช่วง 15 นาทีก่อนปิดตลาด หลังแกว่งแคบๆ ทั้งวัน

การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ ของ บมจ. บริทาเนีย (BRI) ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่สามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 252.65 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10.50 บาท ได้ เพราะราคาหุ้นสามารถยืนเหนือจองได้ตลอดทั้งวัน โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 11 บาท สูงกว่าราคาจอง 50 สตางค์ หรือ 4.7% มีแรงขายกดราคาหุ้นให้อ่อนตัวลงมา แต่ไม่หลุด 10.60 บาท จากนั้นก็มีแรงซื้อกระจายตัวเข้ามาเรื่อยๆ หนุนให้ราคาหุ้นพุ่งแตะจุดสูงสุดที่ 11.70 บาท ก่อนจะอ่อนตัวลงตามแรงขายที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ และแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 11.00-11.50 บาท  จนกระทั่ง 15 นาทีก่อนปิดตลาด กลับมีแรงซื้อโถมเข้ามา ดันราคาหุ้นไต่ระดับไปเรื่อยๆ กระทั่งปิดที่จุดสูงสุดใหม่ ที่ 12.40 บาท เหนือจอง 1.90 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 18%

        
ซึ่งทางผู้บริหาร BRI ที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นจากหยวนต้า (YUANTA) ค่อนข้างพอใจกับกระแสตอบรับในการซื้อขายวันแรก โดยให้เหตุผลว่า การที่ราคาหุ้นสามารถยืนเหนือจอง ถึงแม้บรรยากาศการลงทุนจะมีปัจจัยลบกดดัน แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ โดยเฉพาะความสามารถในการทำกำไร และความเป็นไปได้ที่จะเห็นธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปีนี้

เมื่อสอบถามความเห็นนักวิเคราะห์ค่ายทรีนีตี้ (TNITY) และกสิกรไทย (KS) เพิ่มเติม คำตอบที่ได้รับจะออกมาคล้ายๆ กันว่า ความน่าสนใจของ BRI อยู่ที่ยอด Take Up Rate ของโครงการเปิดใหม่ และการเปิดตัวโครงการอย่างไม่ขาดสาย เป็นปัจจัยหนุนให้แนวโน้มรายได้และกำไรเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเห็นฐานกำไรปกติของบริษัทฯ ขยับขึ้นมาเกิน 1.0 พันล้านบาท ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยคาดหมายแนวโน้มรายได้ปี 2561-2566 จะเติบโตเฉลี่ยราว 77% 

ส่วนฟินันเซีย ไซรัส (FSS) เสริมว่า จุดแข็งเรื่องแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับในตลาด ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมายทำให้ BRI สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งบริษัทฯ ใช้กลยุทธ์ Blue Ocean ในการทำตลาด ทำให้โครงการของ BRI สามารถตั้งราคาขายแบบมี Premium ได้เหนือคู่แข่งในพื้นที่เดียวกัน ดูได้จากการที่บริษัทฯ มีจำนวนโครงการที่พัฒนาเร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 1 โครงการ ในปี 2560 เป็น 21 โครงการ ในปีนี้ ขณะที่กระแสตอบรับก็ออกมาดี วัดจากอัตราเฉลี่ยการขายต่อ 1 โครงการ ที่ใช้ระยะเวลาเพียง 1.5 ปี

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากทั้ง 3 ค่ายให้ราคาเป้าหมายปีหน้าของ BRI ใกล้เคียงกัน ที่ 12.80-13.00 บาท