KTB พร้อมยกเครื่องสู่ Digital Banking สมบูรณ์แบบ ผ่าน Arise
300 จำนวนผู้เข้าชม |
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า เพื่อบุกเบิกธุรกิจใหม่ทางด้านดิจิทัล ธนาคารจึงใช้บริษัทย่อย บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด (Infinitas by Krungthai) เป็นเหมือนเรือเร็ว (Speed Boat) เดินหน้าขยายธุรกิจรูปแบบใหม่ ซึ่งล่าสุด อินฟินิธัสได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก (Global Technology Firm) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ "Arise by Infinitas" ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท (โดยฝ่ายไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 51%) เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ รองรับการขยายธุรกิจของธนาคาร อินฟินิธัส และพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ
บริษัท Arise by Infinitas ตั้งเป้าดำเนินธุรกิจด้วยแนวทาง TechFin เพื่อพัฒนาบุคลากรสายพันธุ์ดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Talents) ให้สามารถขับเคลื่อนองค์กร รองรับนวัตกรรมทางการเงิน และโซลูชั่นใหม่ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อขับเคลื่อนให้ KTB สามารถปรับกระบวนการปฏิบัติงานต่างๆ ให้เป็นดิจิทัล จนนำไปสู่ Cloud-centric Model ได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นรากฐานของการเติบโตในประเทศและระดับภูมิภาคของธนาคารในระยะยาว
นอกเหนือจากเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีที่มีมาตรฐาน มีประสบการณ์การทำงานระดับ World class แล้ว Arise by Infinitas ยังมีแผนจัดตั้ง Virtual Office ในอีกหลายประเทศ โดยตั้งเป้าหมาย ภายใน 5 ปี จะมีมูลค่ากิจการสูงถึง 20,000 ล้านบาท
ขณะที่นายดิวีเยช วิทลานี่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัท เอคเซนเชอร์ เสริมว่า การร่วมทุนครั้งนี้ เป็นการร่วมทุนของบริษัท กับกลุ่มสถาบันการเงินเป็นครั้ งแรกในเอเชีย ซึ่งจะช่วยสร้างคุณค่าแบบ 360 องศาให้กับลูกค้าของบริษัทฯ เป็นประโยชน์ทั้งกับลูกค้า รวมถึงลูกค้าและพนักงานคู่ค้า ทั้งในไทยและในภูมิภาค จึงเชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่หลากหลายของเอคเซนเชอร์จะช่วยให้ KTB สามารถพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมดิจิทัล สร้างบุคลากรอัจฉริยะด้านดิจิทัล และเติบโตก้าวนำตลาดได้
ทั้งนี้ บริษัทเอคเซนเชอร์ และ KTB เป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน ร่วมสร้างนวัตกรรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ส่งเสริมให้คนไทยทุกกลุ่ มสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างทั่วถึง เช่น แอปพลิเคชันเป๋าตัง ที่ช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการภาครัฐผ่าน "G Wallet" ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ ม.33 เรารักกัน และยิ่งใช้ยิ่งได้ ตอบโจทย์บริการด้านสุขภาพทั้งการตรวจเช็คสิทธิและจองใช้สิทธิด้านสุขภาพร่วมกับ สปสช. ผ่าน "กระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet)" ปฎิวัติการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลผ่าน "วอลเล็ต สบม." ทำให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการลงทุนพันธบัตรได้ง่าย ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาท พลิกโฉมการลงทุนทองคำออนไลน์ ครบวงจรเป็นครั้งแรกในไทยผ่าน "Gold Wallet" เปิดให้ลงทุนหุ้นกู้ดิจิทัลภาคเอกชน บนวอลเล็ตเป็นครั้งแรกในเอเชีย ผ่านบริการ "ซื้อขายหุ้นกู้" บนเป๋าตัง ซื้อง่าย ขายง่าย ได้ทันที ด้วยบริการที่หลากหลายและสามารถตอบโจทย์ของประชาชนทุกกลุ่ม จึงทำให้ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน "แอปพลิเคชันเป๋าตัง" แล้วมากกว่า 33 ล้านคน
