SENA พร้อมขยายตลาดกลุ่มผู้มีรายได่ต่อเดือน 3 หมื่นบาท ปั้นรายได้ปี 2568 แตะ 1 หมื่นล้านบาท

ผศ. ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2568 ว่า พร้อมเปิดตัว 12 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 11 โครงการ มูลค่าราว 10,000 ล้านบาท และแนวราบ 1 โครงการ มูลค่าราว 3,000 ล้านบาท โดยการทำตลาดแนวสูง ยังคงมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 30,000 บาท (Affordable Segment) คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 54% ของครัวเรือนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัทฯ เป็นผู้นำตลาด (Market Leader) ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึง 20% หรือมากกว่า 20,000 ยูนิต ควบคู่ไปกับการร่วมมือกับพันธมิตร กลุ่มฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ ยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ส่วนการทำตลาดแนวราบ พร้อมต่อยอดความเป็นผู้นำการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน (Sustainable Living Leader) ทั้งการยกระดับการใช้นวัตกรรมเพิ่มความสะดวกสบาย และให้บริการที่ตอบทุกโจทย์ของการซื้อที่อยู่อาศัย ตลอดจนการพัฒนาระบบนิเวศให้สอดคล้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และเทรนด์พลังงานสะอาดในอนาคต ช่วยผลักดันยอดขาย (Presales) ทั้งปีแตะ 15,500 ล้านบาท และมียอดโอน 10,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากโครงการเช่าออมบ้าน (LivNex) ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่มีข้อจำกัดทางการเงินสามารถเป็นเจ้าของบ้านคุณภาพได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,000 ยูนิต หลังเห็นความสำเร็จจากยอดขายโครงการนี้ใน 3 ไตรมาสแรกปี 2567 ที่ผ่านมา ทำได้รวม 976 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านบาท

ขณะที่เป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอน ตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 10,235 ตัน หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 1.02 ล้านต้น ผ่านการเดินหน้าแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ (Zero Energy House concept) การขยายบริการ V-Move และ Smart Mobility concept นวัตกรรมที่ใช้รถพลังงานไฟฟ้าเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ และการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) รวมถึงมีการติดตั้ง EV Station ส่วนกลาง เพื่อเตรียมพร้อมรับเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้  

ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทฯ พร้อมร่วมมือกันขับเคลื่อนธุรกิจที่เสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกันอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสร้าง New S-Curve จากธุรกิจพลังงานสะอาดเพิ่มเติม ทั้งการขยายธุรกิจโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร การขยายการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเป็น 3 แบรนด์ ได้แก่ NETA, LEAP และ DEEPAL