1201 จำนวนผู้เข้าชม |
นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ. ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2568 ว่า ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากปัจจุบันที่มี 110 เมกะวัตต์ (MW) เป็น 500 MW ภายในปี 2569 หลักๆ มาจากโครงการต่างประเทศรวม 350 MW เพื่อผลักดันผลดำเนินงานระยะสั้นให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ก่อนจะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว ประเดิมด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ใน สปป. ลาว ที่ร่วมลงทุนกับบริษัท แม่โขง พาวเวอร์ (MKP) ในสัดส่วน 40% กำลังการผลิต 100 MW ซึ่งน่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าลาว และส่งไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปจำหน่ายในเวียดนาม ได้ภายในปีหน้าตามแผน ขณะที่การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ที่กัมพูชา กำลังการผลิตรวม 250 MW พร้อมเร่งพัฒนาโครงการทันทีที่ได้รับใบอนุญาติจากทางการกัมพูชา
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าในประเทศ จะเริ่มติดตั้งเครื่องจักรในโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 โครงการ ภายใต้บริษัท สยาม พาวเวอร์ (SP) ที่หนองสาหร่าย (SPNS) และนากลาง (SPNK) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งแห่งละ 9.9 MW ในไตรมาสแรกนี้ ก่อนทยอยพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเพิ่มอีก 4 โครงการ ได้แก่ SP4 - SP7 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มจาก 90.2 MW เป็น 110 MW ต่อยอดรายได้ให้เติบโตแข็งแกร่งขึ้น ประกอบกับ บริษัทฯ ได้จดทะเบียนคาร์บอนเครดิต และ I-RECs จากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกโครงการ เตรียมพร้อมสำหรับการขายคาร์บอนเครดิตเป็นการล่วงหน้าแล้ว
เฉพาะปีนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า จะเห็นรายได้เติบโตจากปีก่อน หนุนจากการไม่มีค่าใช้จ่ายของโรงไฟฟ้าที่ตัดจำหน่ายออกไป อีกทั้งบริษัทฯ สามารถควบคุมต้นทุนค่าเชื้อเพลิง และเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG กำลังการผลิตติดตั้งรวม 80.7 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ นนทบุรี (SPNT) กำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 MW ได้ดีขึ้นด้วย