1681 จำนวนผู้เข้าชม |
นางสาวสุธาสินี หมื่นละม้าย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพาณิชย์และการลงทุน บมจ. พริมา มารีน (PRM) เปิดเผยแนวโน้มผลดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังว่า มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตามอุปสงค์ที่เติบโตในทุกกล่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมี (PCT) เรือขนส่งน้ำมันดิบ (COC) เรือกักเก็บและผสมน้ำมันกลางทะเล (FSU) เรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล (OSV) หรือการเป็นตัวแทนสายเดินเรือและออกของ (SAS) อีกทั้งสามารถบริหารจัดการกองเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พร้อมต่อยอดการเติบโตในธุรกิจเดิม ด้วยการซื้อกิจการผู้ให้บริการตัวแทนออกของ (Shipping & Ship Agent) ซึ่งคาดว่าจะหาข้อสรุปได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ สร้างการรับรู้รายได้ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ทันที รวมทั้งสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจให้บริการ Logistics อย่างครบวงจร รองรับแผนขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ นอกเหนือจากกลุ่มปิโตรเลียม อาทิ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการนำเข้าส่งออกเพิ่มมากขึ้น
และเพื่อผลักดันผลดำเนินงานให้เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าแผนลงทุนเพิ่มกองเรืออย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นการต่อเรือ Crew Boat ใหม่จำนวน 2 ลำ ภายใต้งบลงทุน 350 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางอุปทานเรือในธุรกิจที่มีจำกัด คาดว่าจะพร้อมรับมอบเรือลำแรกในเดือนมีนาคม และลำที่สองในเดือนกรกฎาคมปีหน้า ส่งผลให้เรือ Crew Boat เพิ่มเป็น 17 ลำ รวมถึงอยู่ในระหว่างการเจรจาลงทุนซื้อเรือ FSU และเรือ Aframax เพิ่มอีกอย่างละ 1 ลำ ตลอดจนมีแผนสั่งต่อเรือ Small tanker ใหม่อีก 6 ลำ ขนาดประมาณ 2,500 เดทเวทตัน (DWT) กำหนดรับเรือช่วงต้นปี 2569